กองทัพบก โต้ กัมพูชา "พื้นที่พิพาท" อยู่เขตไทย ไม่ต้องใช้กลไก JBC
กองทัพบกแจงประเด็นเขตแดนไทย-กัมพูชา ย้ำพื้นที่พิพาทอยู่ลึกเข้ามาในเขตไทยชัดเจน ไม่ใช่พื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อน ไม่จำเป็นต้องรอ JBC ยันไทยยึดหลักสากล
จากกรณีข้อพิพาทบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าสุด พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ออกมาชี้แจงอย่างเป็นทางการ เพื่อตอบโต้แถลงการณ์ของ นายเพ็ญ โบนา โฆษกรัฐบาลกัมพูชา
โดยยืนยันว่าพื้นที่ที่เป็นปัญหาขัดแย้งในปัจจุบัน อยู่ในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน และไม่จำเป็นต้องใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ในการแก้ไขปัญหา
กัมพูชาอ้างอนุสัญญา 1904 และ สนธิสัญญา 1907
ประเด็นดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ นายเพ็ญ โบนา โฆษกรัฐบาลกัมพูชา ได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธรายงานของสื่อมวลชนไทย ที่ระบุว่า
พื้นที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว รวมถึงพื้นที่ที่ฝ่ายไทยได้วางลวดหนามและใช้รถปรับพื้นที่เพื่อปฏิบัติการกวาดล้างทุ่นระเบิดนั้น อยู่ในเขตแดนไทย
นายเพ็ญ โบนา อ้างว่า เขตแดนระหว่างกัมพูชาและไทยเป็นเขตแดนระหว่างประเทศที่กำหนดไว้ใน อนุสัญญา ค.ศ. 1904 และ สนธิสัญญา ค.ศ. 1907
ซึ่งรวมถึงแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 และหลักเขตแดนที่ยอมรับร่วมกัน 74 หลัก
โดยยืนยันว่าเอกสารเหล่านี้ยังคงมีผลทางกฎหมายภายใต้กฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเพียงฝ่ายเดียวได้
ทบ. โต้ "พื้นที่พิพาท" อยู่ในอธิปไตยไทย ไม่ต้องใช้กลไก JBC
ต่อกรณีดังกล่าว พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงว่า นายเพ็ญ โบนา พยายามที่จะไม่เข้าใจข้อเท็จจริง แม้ว่าฝ่ายไทยจะได้ชี้แจงไปแล้วหลายครั้ง
โฆษก ทบ. ยืนยันว่า พื้นที่ที่ชาวบ้านกัมพูชาบุกรุกและกำลังเป็นข้อพิพาทกันอยู่นั้น อยู่นอกเขตพื้นที่ที่กัมพูชาอ้างสิทธิ์
และอยู่ลึกเลยเข้ามาในพื้นที่ฝั่งไทยอย่างชัดเจน แม้ว่ากัมพูชาจะนำแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 มาใช้อ้างอิงก็ตาม
ไขความต่าง "พื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อน" (ต้องใช้ JBC) vs "พื้นที่รุกล้ำชัดเจน" (ไม่ต้องใช้ JBC)
พลตรี วินธัย ได้อธิบายเพิ่มเติมเพื่อความชัดเจนว่า ตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส (ค.ศ. 1907) โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่ชายแดนที่เป็นที่ราบ ให้ยึดถือหลักเขตแดนที่ได้ปักปันกันไว้ในอดีตเป็นหลัก
- พื้นที่ที่ต้องใช้ JBC: คือพื้นที่ที่หลักเขตแดนบางหลักอาจยังมีความเห็นไม่ตรงกัน ทำให้เกิดเป็น "พื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์" ซึ่งพื้นที่ลักษณะนี้จำเป็นต้องใช้กลไก JBC เข้ามาร่วมแก้ไขปัญหา
- พื้นที่พิพาทปัจจุบัน: แต่สำหรับพื้นที่ที่มีปัญหาและข้อพิพาทกันอยู่ในขณะนี้ (กรณีการบุกรุก) พลตรี วินธัย ย้ำว่า ไม่ได้อยู่ในขอบเขตพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ แต่เป็นพื้นที่ที่อยู่ "ลึกเลยเข้ามาในฝั่งประเทศไทยอย่างชัดเจน"
ด้วยเหตุนี้ ฝ่ายไทยจึงเห็นว่าไม่จำเป็นต้องรอให้กลไก JBC มาใช้แก้ปัญหาในบริเวณพื้นที่ส่วนนี้
โฆษกกองทัพบกสรุปว่า การรุกล้ำกรณีดังกล่าวจึงย่อมมีผลทางกฎหมายของไทย
และการดำเนินการของไทยไม่ได้เป็นการละเมิดบทบัญญัติของกฎบัตรสหประชาชาติ และกฎหมายระหว่างประเทศตามที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวอ้างแต่อย่างใด


