ดีอีเผยปลดระงับธุรกรรม 10% ที่เหลือเกี่ยวข้องบัญชีม้า
ล่าสุดมีประชาชนโทรเข้ามาขอปลดการระงับธุรกรรมกว่า 1,300 สาย แต่ให้ข้อมูลครบถ้วนเพียง 300 ราย และในจำนวนนี้สามารถปลดระงับธุรกรรมได้เพียง 10%
KEY
POINTS
- กระทรวงดีอีชี้แจงว่าการ "อายัดบัญชี" จากการฉ้อโกงออนไลน์ เป็นเพียงการระงับธุรกรรมชั่วคราวเฉพาะวงเงินที่เสียหาย ไม่ใช่การอายัดเงินทั้งหมดในบัญชี
- เจ้าของบัญชียังคงสามารถทำธุรกรรมหรือใช้เงินส่วนอื่นในบัญชีได้ตามปกติ เนื่องจากมาตรการดังกล่าวไม่กระทบต่อวงเงินส่วนที่เหลือ
- การระงับธุรกรรมจะถูกปลดล็อกหลังการตรวจสอบเสร็จสิ้น
ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) แถลงข่าวชี้แจงกรณีการอายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงออนไลน์ว่า เป็นเพียงการ ระงับธุรกรรมชั่วคราว ในวงเงินที่ได้รับความเสียหายเท่านั้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีเวลาตรวจสอบเส้นทางการเงิน ไม่ใช่การอายัดบัญชีถาวร
ทั้งนี้ เมื่อประชาชนตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพและแจ้งความเข้ามาที่ศูนย์ AOC 1441 ทางศูนย์ฯ จะประสานงานกับธนาคารเพื่อ ระงับธุรกรรม ของบัญชีปลายทางที่เงินถูกโอนเข้าไป โดยระงับเฉพาะจำนวนเงินที่ผู้เสียหายแจ้งเท่านั้น เช่น หากถูกหลอก 10,000 บาท ก็จะระงับธุรกรรมเพียง 10,000 บาท ไม่ใช่การระงับทั้งบัญชี
ส่วนการระงับบัญชีถาวรจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีการตรวจสอบแล้วพบว่าบัญชีนั้นเข้าข่ายเป็น บัญชีม้า ซึ่งจะเป็นอำนาจของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) โดยหากพบว่าเป็นบัญชีม้า ปปง. จะสามารถอายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้
สำหรับประชาชนที่ถูกระงับธุรกรรมชั่วคราวแต่ไม่ใช่บัญชีม้า หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วจะสามารถปลดล็อกให้ใช้งานได้ตามปกติ ซึ่งกระทรวงดีอีได้เร่งประสานงานกับธนาคารเพื่อดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในครึ่งวัน
ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงดีอีย้ำว่า ทุกกรณีไม่ว่าจะเป็นประชาชนรายย่อยหรือบริษัทขนาดใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีนี้จะใช้ “มาตรฐานเดียวกัน” ในการตรวจสอบและดำเนินการ
นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงข้อกังวลของประชาชนเรื่องการถูกกลั่นแกล้งจากการโอนเงินผิดบัญชีว่า ไม่ต้องกังวล หากมีคนมากลั่นแกล้งโดยการโอนเงินเข้ามาแล้วแจ้งความ เงินที่โอนมาก็จะถูกระงับธุรกรรมแค่วงเงินนั้นเท่านั้น ไม่กระทบต่อวงเงินอื่นในบัญชีอย่างแน่นอน
โดยขอให้ประชาชน อย่าตื่นตระหนก หากพบปัญหาเกี่ยวกับการฉ้อโกงออนไลน์ สามารถแจ้งเรื่องได้ที่สายด่วน AOC 1441 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือและดำเนินการได้อย่างทันท่วงที
สำหรับผู้บริสุทธิ์ที่ได้รับผลกระทบจากการถูกระงับการทำธุรกรรม สามารถติดต่อศูนย์ฯ ได้โดยตรง พร้อมแจ้งข้อมูล 4 อย่าง ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล, หมายเลขบัตรประชาชน, เลขที่บัญชี และธนาคาร เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและปลดล็อกได้ภายในไม่เกินครึ่งวัน
นายวิศิษฏ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบ พบว่าธุรกรรมที่เข้าข่ายบัญชีม้ามักเกี่ยวข้องกับเงินหลักแสนถึงหลักล้าน ไม่ใช่กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าทั่วไปที่ใช้วงเงินไม่มาก ส่วนข้อสงสัยว่าระบบเลือกปฏิบัติหรือไม่ ยืนยันว่าทุกบัญชีที่เข้าข่ายจะถูกระงบเท่าเทียมกัน แม้แต่บริษัทขนาดใหญ่ก็อยู่ในข่าย เพียงแต่วงเงินที่ถูกระงบอาจเล็กน้อยจนไม่รู้สึกถึงผลกระทบ
การดำเนินการทั้งหมดเป็นไปตามกฎหมาย ภายใต้ความร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มีแผนเพิ่มมาตรการตรวจสอบธุรกรรมให้เข้มข้นยิ่งขึ้น เพื่อให้การคัดแยกระหว่างบัญชีที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรม และบัญชีของผู้บริสุทธิ์เป็นไปอย่างรวดเร็ว แม่นยำ และลดผลกระทบให้น้อยที่สุด
"หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังอยู่ระหว่างการหารือ เพื่อพัฒนาระบบกลั่นกรองธุรกรรมให้สามารถตรวจสอบได้ตั้งแต่ต้นทาง ไม่ต้องรอให้เกิดความเสียหายก่อนถึงจะดำเนินการ ซึ่งต้องอาศัยข้อมูล ความร่วมมือ และระบบที่เชื่อมโยงจากทุกฝ่าย" ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ กล่าว


