posttoday

โปรดเกล้าฯ ตั้ง13ศาสตราจารย์ เปิดเกณฑ์สู่ตำแหน่งสูงสุดวิชาการ

12 กันยายน 2568

ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศแต่งตั้งศาสตราจารย์รวม 13 ราย จากมหาวิทยาลัยพะเยา เชียงใหม่ ขอนแก่น จุฬาฯ และมหิดล ตามเกณฑ์ ก.พ.อ.

KEY

POINTS

  • มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งศาสตราจารย์ใหม่จำนวน 13 ราย จากมหาวิทยาลัยชั้นนำ 5 แห่งทั่วประเทศ
  • การดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ต้องผ่านเกณฑ์คุณสมบัติที่เข้มงวดของ ก.พ.อ. ซึ่งกำหนดให้ต้องมีผลงานวิจัยคุณภาพสูงที่ตีพิมพ์ในระดับนานาชาติ
  • กระบวนการแต่งตั้งต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและสภามหาวิทยาลัย เพื่อรับรองมาตรฐานและความเป็นเลิศทางวิชาการ

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งศาสตราจารย์ รวมทั้งสิ้น 13 ราย โดยมี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ทั้งนี้ ผู้ได้รับการแต่งตั้งมาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ อาทิ มหาวิทยาลัยพะเยา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหิดล

การแต่งตั้งครั้งนี้มีผลตั้งแต่วันที่บุคคลนั้น ๆ มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่สภามหาวิทยาลัยและคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้พิจารณา โดยถือเป็นการตอกย้ำความสำคัญของระบบอุดมศึกษาไทยที่ยังคงยึดโยงกับมาตรฐานวิชาการระดับนานาชาติ

รายชื่อผู้ได้รับแต่งตั้ง
มหาวิทยาลัยพะเยา

รศ.เชวศักดิ์ รักเป็นไทย คณะวิศวกรรมศาสตร์ ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า (27 ตุลาคม 2563)

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

รศ.มุกดา ภัทราวราพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ ศาสตราจารย์สาขาเคมี (27 พฤศจิกายน 2563)

รศ.ธนูศักดิ์ ตาตุ คณะเทคนิคการแพทย์ ศาสตราจารย์สาขาเทคนิคการแพทย์ (20 ธันวาคม 2564)

มหาวิทยาลัยขอนแก่น

รศ.นฤมล เชาว์สุวรรณกิจ คณะแพทยศาสตร์ ศาสตราจารย์สาขารังสีวินิจฉัย (11 พฤษภาคม 2564)

รศ.ลีลาวดี เตชาเสถียร คณะแพทยศาสตร์ ศาสตราจารย์สาขากุมารเวชศาสตร์ (28 มกราคม 2565)

รศ.สิทธิชัย เอี่ยมสะอาด คณะแพทยศาสตร์ ศาสตราจารย์สาขากายวิภาคศาสตร์ (5 กรกฎาคม 2565)

รศ.พรนภา เกษมศิริ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ศาสตราจารย์สาขาวิศวกรรมเคมี (4 สิงหาคม 2565)

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

รศ.รตินันท์ บุญเคลือบ คณะวิทยาศาสตร์ ศาสตราจารย์สาขาคณิตศาสตร์ (1 มิถุนายน 2565)

รศ.พันธนา ตอเงิน คณะวิทยาศาสตร์ ศาสตราจารย์สาขาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม (15 มิถุนายน 2565)

รศ.ณุวีร์ ประภัสระกูล คณะสัตวแพทยศาสตร์ ศาสตราจารย์สาขาจุลชีววิทยา (12 ตุลาคม 2565)

รศ.พีรพล เวทีกูล คณะวิศวกรรมศาสตร์ ศาสตราจารย์สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ (6 มิถุนายน 2566)

รศ.สุกัญญา แช่มช้อย คณะครุศาสตร์ ศาสตราจารย์สาขาครุศาสตร์ (10 กรกฎาคม 2566)

มหาวิทยาลัยมหิดล

รศ.ชนิกา ศรีธรา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ศาสตราจารย์สาขารังสีรักษาและเวชศาสตร์นิวเคลียร์ (19 สิงหาคม 2565)
 

หลักเกณฑ์การแต่งตั้งศาสตราจารย์ในประเทศไทย

การแต่งตั้งศาสตราจารย์ในระบบอุดมศึกษาไทยอิงตาม ประกาศคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ก.พ.อ.) พ.ศ. 2564 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งวางกรอบมาตรฐานไว้ชัดเจน โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

1. เส้นทางตำแหน่งทางวิชาการ

อาจารย์มหาวิทยาลัยต้องไต่ระดับจาก

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ (ผศ.) →รองศาสตราจารย์ (รศ.) →ศาสตราจารย์ (ศ.)

การจะขยับสู่ตำแหน่งศาสตราจารย์ ต้องสะสมทั้งประสบการณ์การสอน งานวิจัย และผลงานวิชาการที่ตรงตามเกณฑ์

2. คุณสมบัติและผลงานทางวิชาการ

เกณฑ์การพิจารณาแบ่งเป็น 3 วิธีหลัก ครอบคลุมทั้ง คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง และ ผลงานทางวิชาการ ได้แก่

ผลงานวิจัย: ต้องมีงานวิจัยคุณภาพสูง จำนวนตามเกณฑ์ (เช่น 5 เรื่อง หรือ 1 เรื่องหลักพร้อมผลงานอื่นรวม 5 รายการ) และต้องได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการนานาชาติที่อยู่ในฐานข้อมูลมาตรฐาน

ตำรา/หนังสือ: ต้องมีอย่างน้อย 1 เล่ม ซึ่งสะท้อนความเชี่ยวชาญในศาสตร์นั้น ๆ

บทความวิชาการและปริทรรศน์: สามารถนับรวมเพื่อเสริมความครบถ้วน

การเป็นผู้ประพันธ์หลัก: ต้องเป็น First author หรือ Corresponding author เพื่อยืนยันบทบาทเชิงวิชาการ

3. กระบวนการพิจารณา

ผู้ขอต้องยื่นเอกสารแสดงคุณสมบัติและผลงาน

คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกสถาบันจะเป็นผู้ตรวจสอบและประเมิน

หากผ่านการพิจารณา สภามหาวิทยาลัยจึงมีมติแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ก่อนทูลเกล้าฯ เพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง

ความหมายเชิงสังคมและวงวิชาการ

การแต่งตั้งศาสตราจารย์ไม่เพียงเป็นเกียรติยศส่วนบุคคล แต่ยังสะท้อนความเข้มแข็งของสถาบันอุดมศึกษาไทยในการสร้างองค์ความรู้ใหม่ สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี ตลอดจนยกระดับชื่อเสียงของประเทศในเวทีนานาชาติ

ครั้งนี้ ผู้ได้รับการแต่งตั้งมาจากหลากหลายสาขา ตั้งแต่วิทยาศาสตร์พื้นฐาน แพทยศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ ครุศาสตร์ ไปจนถึงวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของงานวิชาการไทยที่สอดคล้องกับความต้องการของสังคมยุคใหม่ ทั้งด้านสุขภาพ พลังงาน เทคโนโลยีดิจิทัล และสิ่งแวดล้อม

ประกาศแต่งตั้งศาสตราจารย์ 13 รายครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงพิธีกรรมทางวิชาการ แต่คือการประกาศศักยภาพของระบบการศึกษาไทยว่ามีบุคลากรที่สามารถสร้างงานวิจัยและองค์ความรู้ที่ยืนอยู่บนมาตรฐานสากล

การเดินหน้าตามเกณฑ์ที่เข้มงวดของ ก.พ.อ. ยังเป็นการการันตีคุณภาพของผู้ที่ได้รับตำแหน่งว่าเป็น “ผู้นำทางวิชาการ” ตัวจริง ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสังคมและประเทศต่อไป

ข่าวล่าสุด

ทรู-ซีพี ผนึก กกท. ประกาศพร้อมจัดซีเกมส์ 2025 ชูเครือข่าย 5G เต็มพิกัด