พยากรณ์อากาศ 7ก.ย.68 จับตากทม. ภาคตะวันออกฝนตกหนักมาก
ไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง กทม.–ปริมณฑลและภาคตะวันออกเสี่ยงน้ำท่วมขัง–น้ำป่า ขณะพายุโซนร้อน “ตาปะฮ์” ไม่กระทบไทยโดยตรง
KEY
POINTS
- กรมอุตุฯ พยากรณ์อากาศวันที่ 7 ก.ย. 68 ให้จับตาฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และภาคตะวันออก
- สาเหตุเกิดจากร่องมรสุมและมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก
- ทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร และอาจสูงกว่า 2 เมตรในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง จึงเตือนให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศประจำวันที่ 7 กันยายน 2568 ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และภาคตะวันออก ได้แก่ จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักต่อเนื่องที่อาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำท่วมขัง และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาและพื้นที่ลุ่ม
ทั้งนี้ สาเหตุมาจากร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ส่งผลให้มีฝนฟ้าคะนองในหลายพื้นที่
สำหรับคลื่นลม ทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงราว 2 เมตร และสูงมากกว่า 2 เมตรในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ขณะที่ทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนคลื่นสูง 1-2 เมตร และอาจสูงเกิน 2 เมตรในบางจุด กรมอุตุฯ แนะนำให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
อนึ่ง เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 6 กันยายน พายุดีเปรสชันในทะเลจีนใต้ตอนบนได้ทวีกำลังเป็นพายุโซนร้อน “ตาปะฮ์” (TAPAH) คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในวันที่ 8 กันยายน แต่ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย
ภาคเหนือ
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 5-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดชัยภูมิ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ยโสธร
อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง
ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม และสมุทรสาคร
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดพังงาขึ้นมา : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตลงไป : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพและปริมณฑล
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.


