เจาะไทม์ไลน์ “หมอบี - วัดพระบาทน้ำพุ” เงินบริจาค ศรัทธา สู่ปมฉ้อฉล
เจาะไทม์ไลน์ “หมอบี–วัดพระบาทน้ำพุ” ศรัทธาและเงินบริจาคที่ถูกตั้งคำถาม สู่การตรวจสอบฉ้อฉล ก่อนพบมูลความผิด
กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นน่าจับตา หลังเหล่าคนดังด้านวงการความเชื่อหลายรายพากันโพสต์ข้อความชวนสงสัย ที่มีคียเวิร์ดสำคัญคือ “การหากินกับศรัทธา” และ “กรรม” ด้านแพรี่ ไพรวัลย์ ก็ได้ออกมาโพสต์ภาพอาคารหลังโตที่กำลังก่อสร้าง
ต่อมาชาวเนตชี้นิ้วไปที่ “หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ” และภายหลังเจ้าตัวก็ได้ออกมายอมรับว่าอาคารหลังดังกล่าวคือบ้านของตนที่สร้างจากเงินที่ตนหามาจากการดูดวงและปราบผี?
แต่เนื่องจากหมอบีคือผู้ที่เคยเป็นผู้รับเงินบริจาคช่วย “วัดพระบาทน้ำพุ” และแน่นอนภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถืออันยาวนานของวัด ทำให้มีเงินบริจาคหลั่งใหล มากมายพอๆกับศรัทธาทำให้กลายเป็นข้อพิพาทร้อนแรง นำไปสู่การร้องเรียน การตรวจสอบทั้งตัวหมอบีที่มีเงินไปสร้างบ้านหลังโต และ เจ้าอาวาสวัดพระบาดน้ำพุ ที่มีอำนาจโดยตรงในการบริหารจัดการเงินบริจาค
หลวงพ่ออลงกต - หมอบี - บัญชีเงินบริจาค
ปี 2562
-นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือหมอบี แสดงบทบาทเป็น “จิตอาสา” ของวัดพระบาทน้ำ จัดสัมมนา บรรยายธรรมในวัด โดยไม่ได้มีตำแหน่งในวัด ซึ่งการจัดกิจกรรมเหล่านี้ มักมีผู้เข้าฟังถวายปัจจัย เงินบริจาคให้วัดมากกว่าวันปกติ
- หมอบีขอเปิดบัญชีรับบริจาคใน ชื่อ “ใจฟ้าอาทรประชานาถ โดย เสกสรรค์” อ้างว่าจะใช้เงินสนับสนุนกิจกรรมของวัด เช่น ช่วยผู้ป่วย HIV/AIDS และโครงการเพื่อสังคมอื่น ๆ
-ปีแรกยอดบริจาคประมาณ 4–5 ล้านบาท และเติบโตอย่างรวดเร็วเนื่องจากหมอบีที่มีฐานแฟนคลับออนไลน์
ปลายปี 2567
มีคลิปวิดีโอเผยว่ามีการเบิกเงินสด 300,000 บาทจากบัญชี แต่ถวายหลวงพ่อไม่ครบ จำนวนเงินอื่น ๆ รวมถึงยอดบริจาคบางส่วนก็มีข้อสังเกตว่าไม่สามารถระบุปลายทางการใช้ได้ชัดเจน
สังคมเกิดข้อสงสัยว่า เงินบริจาคมีการใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ เช่น การนำไปซื้อบ้าน รถ หรือทรัพย์สินส่วนตัว
6 สิงหาคม 2568
หลวงพ่ออลงกตเผยว่า หมอบีขออนุญาตเปิดบัญชีในชื่อตัวเองตั้งแต่ปี 2562 เพื่อทำกิจกรรมอาสาสำหรับวัด ยอมรับว่าเลขานุการของหมอบีได้รายงานเบิกจ่ายทั้งหมดให้ทราบทุกครั้ง แต่พบว่า มีการเบิกเงินส่วนหนึ่งเพื่อทำโครงการจิตอาสา (มักเป็นโครงการไถ่ชีวิตโค–กระบือ) โดยหลวงพ่อเพิ่งทราบเรื่องนี้เมื่อปีที่ผ่านมา (ประมาณปี 2567) ว่าเกิดขึ้นแล้วประมาณ 10 ครั้ง
หากพิสูจน์ได้ว่ามีการยักยอกเงินบริจาคจริง จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด ขณะเดียวกันก็ไม่กังวลต่อการตรวจสอบของตำรวจ เพราะเชื่อว่าบุคคลที่เป็นเจ้าทุกข์ในกรณีนี้คือผู้บริจาค ไม่ใช่วัด
สั่งห้ามหมอบี “ยุ่งเกี่ยวกับกิจการวัด”
7 สิงหาคม 2568
หลวงพ่ออลงกต ออกแถลงระบุว่า แม้หมอบีเป็นจิตอาสาที่ทำงานให้วัดตั้งแต่ปี 2562 แต่ปัจจุบันต้องให้หมอบีชี้แจงข้อสงสัยด้วยตัวเอง และเบื้องต้นวัดได้สั่งห้ามไม่ให้หมอบียุ่งเกี่ยวกับกิจการหรือโครงการของวัดต่อไป พร้อมเตรียมรวบรวมหลักฐานเพื่อแจ้งความดำเนินคดีหากมีมูล
หมอบีเข้าพบตำรวจ และ ตำรวจพบ “มูล” คดี
7 สิงหาคม 2568
หมอบีเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบฯ พร้อมเอกสารจำนวน 3 ถุงใหญ่ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยว่าพบมูลว่ามีการถอนเงินมากกว่า 100 ครั้ง รวมคิดเป็นยอดรวม“กว่า 200 ล้านบาท”และบางยอดถอนสูงสุดกว่า 3 ล้านบาท แต่ถวายให้วัดไม่ครบตามยอดที่เบิก
ขณะนี้ยังไม่เป็นคดีความทางอาญาเนื่องจากวัดยังไม่ได้แจ้งความ แต่ตำรวจรับเรื่องและอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง
ส่วนเรื่องการแบ่งยอดบริจาค 70:30 ว่าไม่เป็นความจริง และเงินบริจาคทั้งหมดหมอบีนำมาถวายครบถ้วน ส่วนจะนำไปใช้ในกิจกรรมใด หลังจากนั้นก็เป็นเรื่องที่หลวงพ่อไม่ได้ก้าวล่วง ไม่กังวลหากตำรวจจะตรวจสอบการเงินของวัดหรือตัวท่านเอง และย้ำว่า หากพบว่าหมอบียักยอกจริง จะดำเนินการแน่นอน
19 สิงหาคม 2568
พ.ต.อ.เอนก ระบุว่า กองปราบได้รับข้อมูลเส้นทางการเงินเพิ่มเติมแล้ว แต่วัดให้ความร่วมมือน้อยในเรื่องการส่งมอบเอกสาร บัญชี หรือรายละเอียดทางการเงินที่ต้องใช้ตรวจสอบ แม้ว่าจะไม่รับความร่วมมือจากวัดโดยตรง แต่ตำรวจมีช่องทางอื่นในการตรวจสอบ
สละตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เหลือเพียง “หลวงพ่ออลงกต”
18 สิงหาคม 2568: หลวงพ่ออลงกตยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ โดยมีหลายสื่อรายงานว่าเป็นเพื่อรับผิดชอบสถานการณ์และเปิดทางให้ตรวจสอบได้โปร่งใสมากขึ้น
แม้จะมีประกาศลาออกไปแล้ว แต่สำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรียังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการ เนื่องจากขั้นตอนการลาออกต้องผ่านหน่วยงานคณะสงฆ์ และส่งให้เจ้าคณะจังหวัดพิจารณาต่อไป
19 สิงหาคม 2568: ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการจากเจ้าคณะจังหวัดลพบุรีให้ลาออกตามที่ยื่นคำร้องตั้งแต่วันนี้ (19 ส.ค.) เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าวยังมีอีกหลายประเด็นที่น่าติดตาม เช่นกรณีเงินบริจาคมหาศาลแต่อาคารที่ใช้เป็นพักพิงผู้ป่วยHIVกลับถูกปล่อยทิ้งร้าง ทรุดโทรม โดยภายในสัปดาห์นี้กองปราบเตรียมประชุมเพื่อหารือแนวทางการสืบสวนต่อไป


