posttoday

"พายุวิภา" ถล่มเหนือ! เสียชีวิต 1 สูญหาย 1 ยังกระทบ 4 จังหวัด

29 กรกฎาคม 2568

ปภ. สรุปสถานการณ์พายุ "วิภา" ตั้งแต่ 21 ก.ค. ครอบคลุม 11 จังหวัด ยอดผู้เสียชีวิต 1 ราย สูญหาย 1 ราย ล่าสุดยังอ่วม 4 จังหวัด ประชาชนกว่าแสนคนเดือดร้อน

KEY

POINTS

  • อิทธิพลจากพายุ "วิภา" ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายที่จังหวัดแพร่ และมีผู้สูญหาย 1 รายที่จังหวัดน่าน
  • สถานการณ์สาธารณภัยส่งผลกระทบในพื้นที่ภาคเหนือรวม 11 จังหวัด มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 43,000 ครัวเรือน
  • ปัจจุบันยังคงมี 4 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม ได้แก่ น่าน เชียงราย แพร่ และสุโขทัย

รายงานสถานการณ์สาธารณภัย ประจำวันที่ 29 กรกฎาคม 2568

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์จาก พายุ "วิภา" ซึ่งเคลื่อนตัวตามแนวร่องมรสุมพาดผ่านประเทศลาวตอนบนและภาคเหนือตอนบน ส่งผลให้เกิดสถานการณ์สาธารณภัยตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 จนถึงปัจจุบัน ดังนี้

ภาพรวมสถานการณ์

พื้นที่ได้รับผลกระทบ: 11 จังหวัด (น่าน เชียงราย พะเยา ลำปาง เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน แพร่ สุโขทัย ตาก อุตรดิตถ์ และเลย) ครอบคลุม 67 อำเภอ 303 ตำบล 1,610 หมู่บ้าน

 ประชาชนได้รับผลกระทบ: 43,080 ครัวเรือน หรือ 145,532 คน

ผู้สูญหาย: 1 ราย (ชาย ถูกน้ำพัดใน อ.ท่าวังผา จ.น่าน)

ผู้เสียชีวิต: 1 ราย (หญิง พลัดตกน้ำขณะลงมาปิดประตูบ้านชั้น 1 ใน อ.เมืองฯ จ.แพร่)

สถานการณ์ปัจจุบัน

จังหวัดที่ยังคงมีสถานการณ์: 4 จังหวัด (น่าน เชียงราย แพร่ และสุโขทัย) ครอบคลุม 31 อำเภอ 140 ตำบล 638 หมู่บ้าน

ประชาชนยังได้รับผลกระทบ: 31,599 ครัวเรือน หรือ 106,189 คน

ปภ. ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

สำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ ณ วัน 29 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.00 น.

ฝนยังถล่มเหนือ-อีสาน น่านหนักสุด 195 มม.

ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ประเทศไทยตอนบนยังได้รับผลกระทบจากร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศเมียนมา ลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำในเวียดนามตอนบน ร่วมกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลาง ส่งผลให้หลายจังหวัดมีฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยเฉพาะ จ.น่าน ซึ่งวัดปริมาณฝนสะสมได้สูงถึง 195 มม. มากที่สุดในประเทศ

 

  • ภาคเหนือ: น่าน (195 มม.)
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: มุกดาหาร (115 มม.)
  • ภาคตะวันตก: กาญจนบุรี (41 มม.)
  • ภาคกลาง: สระบุรี (17 มม.)
  • ภาคตะวันออก: จันทบุรี (92 มม.)
  • ภาคใต้: ระนอง (34มม.)

 

แนวโน้ม 30 ก.ค. – 3 ส.ค.:

นจะลดลงในภาพรวมของภาคเหนือและภาคกลาง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและภาคตะวันออก เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะเริ่มอ่อนกำลังลง

สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศ:

มีน้ำรวมในอ่างเก็บน้ำใหญ่ 62% ของความจุ (รวม 49,960 ล้าน ลบ.ม.)

ปริมาณน้ำใช้การได้อยู่ที่ 44% (25,843 ล้าน ลบ.ม.)

หน่วยงานด้านป้องกันภัยพิบัติ และท้องถิ่นในพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากยังคงต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำและริมแม่น้ำสายหลักในภาคเหนือและอีสาน

ข่าวล่าสุด

เส้นทาง “เถ้าแก่ส้ม” ร้อยล้าน ปั้นโชกุนเบตง–สายน้ำผึ้งฝางดังทั่วประเทศ