ทบ.ตั้งปมสงสัยปะทะคารมปราสาทตาเมือนธม กัมพูชาเช็กขุมกำลังไทย
กองทัพบกตั้งข้อสงสัยหญิงกัมพูชาปะทะคารมทหารไทยที่ปราสาทตาเมือนธมเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อตรวจสอบกำลังฝ่ายไทย
KEY
POINTS
- เกิดเหตุปะทะคารมระหว่างนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชากับทหารไทย ณ ปราสาทตาเมือนธม จากความเข้าใจผิดเรื่องเขตแดนอธิปไตย
- กองทัพบกชี้แจงว่าปราสาทตาเมือนธมอยู่ในอธิปไตยของไทย และสถานการณ์ได้คลี่คลายลงด้วยดีหลังการเจรจาของทั้งสองฝ่าย
- ทบ. ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อทดสอบและตรวจสอบกำลังของฝ่ายไทย
- ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่านักท่องเที่ยวหญิงชาวกัมพูชาเป็นเจ้าหน้าที่ทหารตามที่สงสัยหรือไม่
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 ณ กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.อ. ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงถึงเหตุการณ์กระทบกระทั่งระหว่างนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชากับเจ้าหน้าที่ทหารไทย บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 14.00 น.
ปมเข้าใจผิดเรื่อง "อธิปไตย" สถานการณ์คลี่คลายด้วยดี
พ.อ. ริชฌา ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นเมื่อนักท่องเที่ยวหญิงชาวกัมพูชารายหนึ่งแสดงความไม่พอใจและกล่าวตำหนิเจ้าหน้าที่ทหารไทยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่นับจำนวนนักท่องเที่ยวบริเวณใกล้ทางเข้าปราสาทฝั่งกัมพูชา โดยกล่าวหาว่าทหารไทยรุกล้ำอธิปไตยของกัมพูชา
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ชี้แจงยืนยันอย่างชัดเจนว่า ปราสาทตาเมือนธมตั้งอยู่ในเขตแดนอธิปไตยของประเทศไทย และฝ่ายไทยไม่ได้มีการรุกล้ำอธิปไตยตามที่ถูกกล่าวหา
ขณะเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ทหารทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาที่ประจำการอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงได้เข้ามาร่วมไกล่เกลี่ยระงับเหตุการณ์ และเพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์ลุกลามและเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวโดยรอบ ฝ่ายไทยจึงได้เชิญประชาชนออกจากบริเวณปราสาทเป็นการชั่วคราว
พ.อ. ริชฌา ยืนยันว่า ภายหลังการเจรจา ทั้งสองฝ่ายมีความเข้าใจร่วมกัน และสถานการณ์ได้ยุติลงด้วยดี โดยเจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายได้แยกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ
ทบ. ยอมรับเป็น "ข้อสังเกต" การสร้างสถานการณ์ หวังเช็กกำลังฝ่ายไทย
เมื่อถูกถามถึงข้อสังเกตที่ว่าเหตุการณ์นี้อาจเป็นการสร้างสถานการณ์ของฝ่ายกัมพูชา เพื่อตรวจสอบกำลังทหารฝ่ายไทยหรือไม่ พ.อ. ริชฌา กล่าวว่า "เรื่องการสร้างสถานการณ์ ถือว่าเป็นข้อสังเกต อาจยังไม่ใช่ข้อเท็จจริง ซึ่งฝ่ายไทยได้มีการระมัดระวังมาโดยตลอด"
รองโฆษกกองทัพบก ยังกล่าวเสริมว่า การตรวจสอบกำลังและการประเมินท่าทีของแต่ละฝ่าย ถือเป็นการปฏิบัติโดยปกติของหน่วยข่าวกรอง ซึ่งต้องทำอย่างต่อเนื่องโดยใช้วิธีการต่างๆ
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า นักท่องเที่ยวหญิงชาวกัมพูชาคนดังกล่าวเป็นทหารหรือไม่ พ.อ. ริชฌา ระบุว่า "ผู้หญิงกัมพูชาตามที่สงสัย ปัจจุบันยังตรวจสอบไม่พบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตามข่าว"
กองทัพบกยังได้กล่าวขอบคุณประชาชนชาวไทยที่เดินทางมาเยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธม ซึ่งไม่เพียงเป็นการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรม แต่ยังส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจและการสนับสนุนที่มอบให้เจ้าหน้าที่ทหารชายแดนมาโดยตลอด.


