posttoday

เปิดความเชื่อมโยง บริษัท Prince Group และรัฐมนตรีมหาดไทยกัมพูชา

02 กรกฎาคม 2568

สำนักข่าวอิศราเผยรายงานพิเศษ “ส่องคดีทุจริตโลก” แฉบริษัทที่ รมต.มหาดไทยกัมพูชาถือหุ้น พบพิรุธธุรกิจ-โยงคาสิโนและลงทุนเกาะปาเลา มูลค่ากว่า 3.2 หมื่นล้านบาท

สำนักข่าวอิศรา เผยแพร่รายงานพิเศษ “ส่องคดีทุจริตโลก” เปิดโปงกรณีบริษัทเอกชนที่รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยกัมพูชาถือหุ้นอยู่ พบความผิดปกติในการทำธุรกิจหลายข้อ รวมทั้งพบว่าโยงคาสิโน-ลงทุนเกาะปาเลา มูลค่ากว่า 3.2 หมื่นล้านบาท
 

 การตรวจสอบโดยสื่ออิสระและองค์กรต่างประเทศหลายแห่ง เผยให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่าง Prince Group กลุ่มทุนข้ามชาติที่มีฐานอยู่ในกัมพูชา กับบุคคลระดับสูงของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ซาร์ ซกคา (Sar Sokha) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกัมพูชา ซึ่งมีชื่อปรากฏเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของคาสิโนที่กลุ่มทุนดังกล่าวลงทุนอยู่

ประธานกลุ่ม Prince Group คือ เฉิน จือ (Chen Zhi) ชาวจีนผู้ได้รับสัญชาติกัมพูชา ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีบทบาทสำคัญในการขยายเครือข่ายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ การพนันออนไลน์ผิดกฎหมาย อาชญากรรมทางไซเบอร์ และการฟอกเงิน โดยอาศัยการสนับสนุนและความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับผู้นำทางการเมืองท้องถิ่น

เปิดความเชื่อมโยง บริษัท Prince Group และรัฐมนตรีมหาดไทยกัมพูชา

การขยายอิทธิพลข้ามพรมแดน: ลงทุนในปาเลา ภัยคุกคามต่ออธิปไตย

การสอบสวนของ Radio Free Asia (RFA) และสถาบันวิจัย Pacific Economics ระบุว่า Prince Group มีความเคลื่อนไหวที่น่าสงสัยใน ประเทศปาเลา ซึ่งเป็นประเทศเกาะเล็ก ๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยพบว่าเฉิน จือถือหุ้น 37.5% ในบริษัท Grand Legend International Asset Management Group ที่จดทะเบียนในปาเลา ซึ่งมีโครงการลงทุนด้านโรงแรมและรีสอร์ทรวมมูลค่ากว่า 32,000 ล้านบาท มากกว่าผลผลิตทางเศรษฐกิจของประเทศถึงสามเท่า

การเข้าครอบครองเกาะ Ngerbelas ด้วยสัญญาเช่า 99 ปี โดยไม่มีพันธะในการบำรุงรักษาหรือพัฒนา ถูกมองว่าเป็นการผูกขาดทรัพยากรของชาติและ เปิดช่องให้อิทธิพลจากปักกิ่งแทรกซึมเข้ามาอย่างแยบยล
 

เปิดความเชื่อมโยง บริษัท Prince Group และรัฐมนตรีมหาดไทยกัมพูชา

ความเกี่ยวข้องกับบุคคลต้องห้าม: โรส หวัง และเครือข่ายจีนโพ้นทะเล

บุคคลที่ร่วมลงทุนในโครงการของ Prince Group ที่ปาเลาคือ นางโรส หวัง (Rose Wang) หรือ หวัง กัวตัน (Wang Guodan) ซึ่งเป็นชาวจีนที่อาศัยในปาเลามากว่า 20 ปี และเคยถูกประกาศเป็นบุคคลต่างด้าวไม่พึงประสงค์ในปี 2565 เนื่องจากเกี่ยวพันกับการจัดการพบปะระหว่างผู้นำกลุ่มอาชญากรรม Triad 14K กับอดีตประธานาธิบดีปาเลา

แม้เธอจะปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับ Prince Group และเฉิน จือ แต่หลักฐานการจดทะเบียนบริษัทกลับระบุชื่อของเธอเป็นตัวแทนจดทะเบียนของ Grand Legend พร้อมใช้โรงแรมของเธอเองเป็นที่ตั้งบริษัท

นอกจากนี้ นางโรสยังมีบทบาทเป็นผู้นำในสมาพันธ์ชาวจีนโพ้นทะเลปาเลา ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับ กระทรวงการต่างประเทศของจีน และอาจเป็นส่วนหนึ่งของกลไกการแทรกแซงทางการทูตโดยอ้อมในประเทศที่ให้การรับรองไต้หวันอย่างปาเลา

เปิดความเชื่อมโยง บริษัท Prince Group และรัฐมนตรีมหาดไทยกัมพูชา

ความเคลื่อนไหวในไต้หวัน: ช่องทางเลี่ยงการตรวจสอบ

ตั้งแต่ปี 2561 Prince Group ได้ขยายกิจการเข้ามาในไต้หวัน โดยตั้งสำนักงานใหญ่ใกล้กับทำเนียบประธานาธิบดี การดำเนินงานในนาม “บริษัทต่างชาติ” ช่วยให้สามารถหลีกเลี่ยงข้อจำกัดด้านการลงทุนของจีนในไต้หวันได้

กิจกรรมของ Prince Group ที่ไต้หวันครอบคลุมการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ การให้คำปรึกษาทางการเงิน และโปรแกรมย้ายถิ่นฐานเพื่อการลงทุน ซึ่งมีการจัดทริปเยือนกัมพูชาให้แก่นักลงทุนไต้หวัน และนำเสนอผลตอบแทนสูงถึง 6% ต่อปี

แม้รัฐบาลไต้หวันจะไม่แสดงความเห็นต่อกรณีของ Prince Group โดยตรง แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงยอมรับว่า จีนพยายามใช้เครือข่ายธุรกิจและกลุ่มอาชญากรจีนเป็นเครื่องมือแทรกแซงทางอ้อมในประเทศพันธมิตรของไต้หวัน

ข้อกล่าวหาร้ายแรง: ฟอกเงิน–ค้ามนุษย์–ลักพาตัว

รายงานสืบสวนของ RFA ที่เผยแพร่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ชี้ว่า Prince Group มีความเชื่อมโยงกับ การฟอกเงิน การค้ามนุษย์ และกิจกรรมอาชญากรรมไซเบอร์ระดับนานาชาติ โดยเฉพาะในเมืองสีหนุวิลล์และกรุงพนมเปญ ซึ่งเป็นฐานปฏิบัติการสำคัญของเครือข่ายนี้

ที่น่ากังวลยิ่งคือ มีบุคคลอ้างว่าเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจลับของจีนให้ข้อมูลว่า Prince Group มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนลักพาตัวนักเคลื่อนไหวชาวจีนจากไต้หวัน ซึ่งทางบริษัทได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้

แม้จะถูกจับตาอย่างเข้มข้นจากนานาชาติ แต่ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 เฉิน จือได้รับรางวัล ผู้ประกอบการแห่งปีของกัมพูชา จากองค์กรสื่อในสิงคโปร์ และยังคว้ารางวัล ความรับผิดชอบต่อสังคมยอดเยี่ยม (CSR) จากการมอบทุนการศึกษาในประเทศกัมพูชา

เหตุการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความย้อนแย้งอย่างรุนแรงระหว่างภาพลักษณ์ของ Prince Group ที่ได้รับการเชิดชูในกัมพูชา กับภาพที่ปรากฏในสายตาประเทศอื่นว่าเป็นบริษัทที่ เกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมระดับโลก

บทสรุป

กรณีของ Prince Group ถือเป็นภาพสะท้อนของ ความเชื่อมโยงระหว่างทุนอิทธิพล ธุรกิจผิดกฎหมาย และการเมืองระดับสูงในกัมพูชา ที่มีมิติข้ามชาติและซับซ้อนอย่างยิ่ง การดำเนินคดีและการสอบสวนในหลายประเทศชี้ชัดว่าบริษัทแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงนักลงทุนธรรมดา แต่เป็นส่วนหนึ่งของโครงข่ายที่อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเปราะบางต่อการแทรกแซงจากมหาอำนาจ

การดำเนินการใด ๆ ต่อ Prince Group จึงไม่ใช่แค่เรื่องของธุรกิจ แต่เป็นประเด็นสำคัญที่เกี่ยวพันกับ ความมั่นคงระดับชาติ และเสถียรภาพของภูมิภาค

ข่าวล่าสุด

กต.ชี้ กัมพูชาปิดด่านห้ามคนไทยกลับประเทศขัดกฎหมายระหว่างประเทศ