รัฐบาลสั่งปราบ! ยาเสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชนเกลื่อนออนไลน์
รัฐบาลลั่นกวาดล้าง "4 ยาเสพติดรูปแบบใหม่" ระบาดหนักในกลุ่มเยาวชน แฝงตัวในรูปแบบขนม ลูกอม ยาดม วางขายเกลื่อนออนไลน์ อันตรายถึงชีวิต
ภัยเงียบยุคดิจิทัล! รัฐบาลสั่งการด่วน ตำรวจไซเบอร์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งกวาดล้างขบวนการค้ายาเสพติดรูปแบบใหม่ที่กำลังระบาดหนักในกลุ่มเยาวชน หลังพบกลยุทธ์แปลงโฉมผลิตภัณฑ์ให้ดูน่ารักสดใส คล้ายยาดม ลูกอม ขนมหวาน วางขายโจ๋งครึ่มบนโลกออนไลน์ในราคาหลักร้อยบาท หวังล่อลวงให้เยาวชนตกเป็นเหยื่อ เตือนผู้ปกครองเฝ้าระวังใกล้ชิด ชี้อันตรายร้ายแรงถึงชีวิต
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาเปิดเผยถึงสถานการณ์น่าเป็นห่วงเกี่ยวกับปัญหายาเสพติดในประเทศไทย โดยระบุว่ารัฐบาลได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะตำรวจไซเบอร์ ยกระดับการปราบปรามและจับกุมเครือข่ายยาเสพติดอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง
จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น
โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม
ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น
4 ยาเสพติดดีไซน์ใหม่ อันตรายในคราบของใช้-ขนม
จากการเฝ้าระวังและติดตามของหน่วยงานต่างๆ พบว่า ปัจจุบันขบวนการค้ายาเสพติดได้ใช้กลยุทธ์ออกแบบผลิตภัณฑ์เสพติดให้มีรูปลักษณ์ภายนอกสวยงาม ดึงดูดสายตา ทำให้เข้าใจผิดว่าไม่เป็นอันตราย โดยมีผลิตภัณฑ์ที่กำลังระบาดหนัก 4 รูปแบบ ดังนี้
1. บุหรี่ไฟฟ้า GEN 6
- ลักษณะ: ถูกออกแบบมาให้เหมือน "ยาดม" ชนิดแท่งจนแทบแยกไม่ออก มีขนาดเล็ก พกพาง่าย มีการโฆษณาชวนเชื่อว่าใช้แทนยาดมได้
- สารอันตราย: มีส่วนผสมของนิโคตินเหลวที่มีความเข้มข้นสูงถึง 3-5% ซึ่งสูงกว่าบุหรี่ทั่วไปหลายเท่า มีการแต่งกลิ่นเลียนแบบเครื่องดื่มชูกำลังหรือผลไม้ต่างๆ
- วิธีการเสพ: สามารถใช้ได้ทั้งการสูบทางปากเหมือนบุหรี่ไฟฟ้าปกติ และที่อันตรายอย่างยิ่งคือการ "สูดผ่านโพรงจมูกโดยตรง"
- ความเสี่ยง: การสูดนิโคตินเข้มข้นผ่านโพรงจมูกโดยตรง จะทำให้สารนิโคตินถูกดูดซึมผ่านเส้นเลือดฝอยในจมูกเข้าสู่สมองได้อย่างรวดเร็วและรุนแรงกว่าการสูบปกติ เพิ่มความเสี่ยงในการเสพติดอย่างหนัก และยังทำลายเยื่อบุโพรงจมูกโดยตรง อาจนำไปสู่การอักเสบเรื้อรังและติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ง่าย
2. พอดกัญชาไฟฟ้า
- ลักษณะ: มาในรูปแบบพอดใช้แล้วทิ้ง (Disposable Vape) มีสีสันสดใสสะดุดตา พิมพ์ลายการ์ตูนหรือรูปผลไม้ เพื่อดึงดูดกลุ่มวัยรุ่นโดยเฉพาะ
- สารอันตราย: บรรจุน้ำยาสารสกัดจากกัญชาที่มีค่า THC (Tetrahydrocannabinol) ในปริมาณที่สูงมาก แต่งกลิ่นรสเลียนแบบขนมหวานและผลไม้เพื่อกลบกลิ่นเฉพาะตัวของกัญชา
- วิธีการเสพ: ใช้งานง่ายเหมือนบุหรี่ไฟฟ้าทั่วไป เพียงแค่สูบก็ได้รับสารทันที ผู้ค้ามักโฆษณาว่า "หอมหวาน ไร้กลิ่นติดตัว" ทำให้ผู้เสพกล้าที่จะใช้ในที่สาธารณะ
- ความเสี่ยง: สาร THC ในปริมาณสูงจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการพัฒนาสมองของเยาวชน ทำให้มีปัญหาด้านความจำ การเรียนรู้ และการตัดสินใจ อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงของอาการทางจิต เช่น โรคจิตเภทในระยะยาว
3. ลีน (Lean)
- ลักษณะ: เป็นเครื่องดื่มสีม่วงเป็นเอกลักษณ์ มีทั้งแบบผสมสำเร็จพร้อมดื่ม และแบบ "หัวเชื้อ" สำหรับนำไปผสมกับเครื่องดื่มอัดลมหรือน้ำหวานอื่นๆ เอง
- สารอันตราย: ส่วนผสมหลักคือยาแก้ไอที่มีฤทธิ์กดประสาทชนิดรุนแรงที่ชื่อว่า โคเดอีน (Codeine) ซึ่งจัดเป็นสารกลุ่มโอปิออยด์ (Opioids) หรือกลุ่มเดียวกับฝิ่นและเฮโรอีน
- วิธีการเสพ: ดื่มเพื่อให้เกิดอาการเคลิบเคลิ้ม มึนเมา ล่องลอย
- ความเสี่ยง: โคเดอีนมีฤทธิ์กดศูนย์การหายใจในสมองโดยตรง การเสพในปริมาณมากหรือเสพร่วมกับแอลกอฮอล์ อาจทำให้ผู้เสพเกิดภาวะ "หยุดหายใจขณะหลับ" และเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน และทำให้เสพติดอย่างรุนแรง
4. ยาอีรูปแบบใหม่ (Molly - มอลลี่)
- ลักษณะ: พลิกโฉมจากยาอีเม็ดกลมแบบเดิมๆ มาเป็นรูปแบบ "ลูกอม" หรือ "ลูกกวาด" โดยปั๊มเป็นรูปตัวการ์ตูน รูปดาว หัวใจ หรือตัวอักษรน่ารักๆ ใช้สีพาสเทลเพื่อลวงตาให้ดูไม่เป็นพิษเป็นภัย
- สารอันตราย: คือสาร MDMA (Methylenedioxymethamphetamine) ซึ่งเป็นยาเสพติดที่ออกฤทธิ์แบบผสมผสาน ทั้งกระตุ้นประสาทและหลอนประสาทอย่างรุนแรง
- วิธีการเสพ: กลืนกินเหมือนขนมลูกอมทั่วไป
- ความเสี่ยง: ผู้ค้ามักโฆษณาว่า "Molly" ปลอดภัยกว่ายาอีรุ่นเก่าเพราะผ่านการกลั่นให้บริสุทธิ์ แต่ความจริงคือมันยังคงเป็นสารเสพติดอันตรายร้ายแรงเช่นเดิม ฤทธิ์ของมันจะทำให้หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง และอุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นอย่างเฉียบพลัน (Hyperthermia) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้เสพเสียชีวิต นอกจากนี้ยังทำลายเซลล์สมองและเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าอย่างหนักหลังหมดฤทธิ์ยา
รัฐบาลย้ำ! ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือ สร้างสังคมไทยปลอดยาเสพติด
นายอนุกูลย้ำเตือนว่า กลยุทธ์การตลาดที่เปลี่ยนไป ทำให้ยาเสพติดเหล่านี้เข้าถึงเยาวชนได้ง่ายขึ้นผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ
"รัฐบาลขอเตือนไปยังผู้ปกครองทุกท่าน ให้ช่วยกันสอดส่องดูแลพฤติกรรมของบุตรหลานอย่างใกล้ชิด พูดคุยให้ความรู้ถึงพิษภัยของยาเสพติดเหล่านี้ สำหรับหน่วยงานราชการ โดยเฉพาะโรงเรียน ต้องหมั่นตรวจสอบร้านค้าบริเวณรอบสถานศึกษาที่อาจมีการลักลอบจำหน่ายสิ่งเหล่านี้ให้นักเรียน"
รัฐบาลขอเชิญชวนประชาชนทุกคนร่วมกันเป็นหูเป็นตา สร้างสังคมไทยปลอดยาเสพติด ที่เข้มแข็ง การให้ความรู้และไม่เพิกเฉยต่อปัญหาใกล้ตัว คือจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดในการหยุดยั้งวงจรหายนะนี้ ก่อนที่อนาคตของชาติจะถูกทำลาย


