UN เปิดรายงาน ชำแหละ "กัมพูชา" มหานครอาชญากรรมไซเบอร์ระดับโลก
UN เปิดรายงานชี้ชัด "กัมพูชา" มหานครแห่งการต้มตุ๋น ศูนย์กลางใหญ่แก๊งอาชญากรรมไซเบอร์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
องค์กรสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยรายงานฉบับเต็ม ชี้ชัด "กัมพูชา" เป็นศูนย์กลางปฏิบัติการขนาดมหึมาของเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ
โดยใช้ช่องว่างทางธรรมาภิบาลและกฎระเบียบเป็นเครื่องมือในการสร้างอาณาจักรการฉ้อโกงออนไลน์ การพนัน และการฟอกเงินระดับโลก ซึ่งมีเงินหมุนเวียนหลายหมื่นล้านดอลลาร์
รายงานฉบับนี้ได้เปิดโปงโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางกายภาพและดิจิทัลที่ซับซ้อน ซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับกิจกรรมผิดกฎหมายเหล่านี้โดยเฉพาะ สะท้อนภาพความท้าทายครั้งใหญ่ของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก
จากเขตเศรษฐกิจพิเศษสู่ 'เมืองหลวง' แก๊งคอลเซ็นเตอร์
กัมพูชาเป็นหนึ่งในประเทศที่เครือข่ายอาชญากรรมได้ย้ายฐานที่มั่นมายังพื้นที่ที่กฎหมายเข้าถึงได้ยากและเป็นอิสระในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง
โดยมี "เขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ)" และพื้นที่ชายแดนเป็นทำเลทองในการจัดตั้งฐานปฏิบัติการ
รายงานระบุชื่อเมืองสำคัญหลายแห่งที่เป็นที่ตั้งของศูนย์ฉ้อโกงขนาดใหญ่ ได้แก่:
- สีหนุวิลล์
- พนมเปญ
- เกาะกง
- พนมสารคาม
- บาเว็ต
- ปอยเปต
หลักฐานเชิงประจักษ์จากภาพถ่ายดาวเทียมระหว่างปี 2022-2025 แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวอย่างรวดเร็วของอาคารและโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ต้องสงสัย
โดยเฉพาะในพนมสารคาม (ก.พ. 2022 - ม.ค. 2025) และตะบองคมุม (ธ.ค. 2023 - ม.ค. 2025) ซึ่งบ่งชี้ถึงการลงทุนมหาศาลของกลุ่มอาชญากรในการสร้าง "เมือง" สำหรับปฏิบัติการฉ้อโกงโดยเฉพาะ
รวมถึงแพลตฟอร์มการพนันออนไลน์และบริการซอฟต์แวร์ กลุ่มอาชญากรเหล่านี้ดำเนินงานด้วยผู้ประมวลผลการชำระเงินที่ไร้ใบอนุญาต เข้าถึงตลาดออนไลน์ที่ผิดกฎหมาย และยังสร้างเครือข่ายบล็อกเชนของตนเอง
Huione (Haowang): อาณาจักรฟอกเงินหมื่นล้านผ่านคริปโต
หัวใจของระบบนิเวศทางการเงินของอาชญากรรมไซเบอร์ในกัมพูชาคือ Huione Guarantee (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น Haowang) ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงพนมเปญ
UN ระบุว่านี่คือ "หนึ่งในแพลตฟอร์มตลาดมืดออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก" ที่เป็นศูนย์รวมเทคโนโลยี โครงสร้างพื้นฐาน และทรัพยากรสำหรับอาชญากรไซเบอร์
- ขนาดและการดำเนินงาน: มีผู้ใช้งานกว่า 970,000 ราย และผู้ขายหลายพันราย นับตั้งแต่ปี 2021 Huione ได้ประมวลผลธุรกรรมคริปโตเคอร์เรนซีมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ โดยคาดการณ์ว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลที่เชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มมีเงินไหลเข้าอย่างน้อย 24,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
- ระบบนิเวศดิจิทัลครบวงจร: Huione ไม่ได้เป็นเพียงตลาดมืด แต่ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองเพื่อหลีกเลี่ยงการควบคุมจากภาครัฐ ประกอบด้วย แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโต, แพลตฟอร์มพนันออนไลน์, เครือข่ายบล็อกเชนของตัวเองในชื่อ "Xone Chain" และเหรียญ Stablecoin ที่อ้างอิงกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
- การตอบสนองของทางการ: แม้ว่าในเดือนมีนาคม 2025 ธนาคารแห่งชาติกัมพูชาจะเพิกถอนใบอนุญาตของ Huione แต่บริษัทยังคงหาทางหลบเลี่ยงกฎระเบียบและดำเนินธุรกิจธนาคารเงาต่อไป โดยประกาศย้ายธุรกิจการชำระเงินระหว่างประเทศไปยังญี่ปุ่น และเข้าซื้อหุ้น 30% ใน Tudao Guarantee ซึ่งเป็นตลาดมืดออนไลน์อีกแห่งหนึ่ง
โศกนาฏกรรมแรงงานทาสยุคดิจิทัล
เบื้องหลังความสำเร็จของศูนย์ฉ้อโกงเหล่านี้คือชะตากรรมของแรงงานหลายแสนคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็น "เหยื่อค้ามนุษย์" ที่ถูกหลอกและบังคับให้ทำงาน
รายงานระบุว่ามีการส่งกลับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจากหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งชาวอินเดีย เอเชียใต้ ญี่ปุ่น และอื่นๆ จากศูนย์ฉ้อโกงในกัมพูชาและเมียนมาอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งตอกย้ำถึงวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่เกิดขึ้นควบคู่ไปกับอาชญากรรมทางการเงิน
- กลุ่ม Triad: กลุ่ม BG 1 (Vault Viper network) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ iGaming ถูกระบุว่าเชื่อมโยงกับกลุ่ม Triad หลักๆ ที่มีฐานในไต้หวันและมีการดำเนินงานในกัมพูชา
- คดีฟอกเงินครั้งประวัติศาสตร์ในสิงคโปร์: การสืบสวนคดีฟอกเงินมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในสิงคโปร์เมื่อปี 2023 พบความเชื่อมโยงโดยตรงกับศูนย์ฉ้อโกงในกัมพูชา โดยผู้ต้องหา 9 ใน 10 คนในคดีดังกล่าว ถือสัญชาติกัมพูชา
- Goddess of Liberty Group: บริษัทนี้มีฐานในสีหนุวิลล์ และมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางอาญาหลายประเภท รวมถึงการจัดตั้งคาสิโนและศูนย์ฉ้อโกง กลุ่มนี้ยังเชื่อมโยงกับ "หวัน ค็อกคอย (Wan Kuok Koi) หรือ ไอ้ฟันหลอ" หัวหน้ากลุ่ม 14K Triad ซึ่งถูกคว่ำบาตรโดยสหรัฐฯ
- Imperial Pacific International (IPI): อดีตผู้ประกอบการคาสิโนในไซปัน ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในกิจกรรมทางอาญาและมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มอาชญากรในกัมพูชา
- การเชื่อมโยงกับการฟอกเงินในเวียดนาม: หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในเวียดนามพบว่ามีการจัดหาบัญชีธนาคารและบริษัทหน้าม้าจากผู้อยู่อาศัยในเวียดนามเพื่อใช้ในการดำเนินงานฉ้อโกงและฟอกเงินในกัมพูชา
ความพยายามปราบปรามที่ยังน่ากังขา
แม้จะมีความพยายามในการปราบปรามจากรัฐบาลกัมพูชา แต่รายงานของ UN ชี้ให้เห็นว่าการดำเนินการยังคงเป็นไปอย่างไม่ต่อเนื่องและยังไม่สามารถทำลายเครือข่ายเหล่านี้ได้อย่างสิ้นซาก
- กันยายน 2024: สหรัฐอเมริกาประกาศคว่ำบาตรวุฒิสมาชิก Ly Yong Phat และบริษัทของเขา จากข้อกล่าวหาใช้แรงงานบังคับในศูนย์ฉ้อโกงออนไลน์ที่จังหวัดอุดรมีชัยและเกาะกง
- กุมภาพันธ์ 2025: รัฐบาลกัมพูชาประกาศจัดตั้งคณะทำงานชุดใหม่เพื่อต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
โดยรวมแล้ว กัมพูชาเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศอาชญากรรมข้ามชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเป็นที่ตั้งของศูนย์ฉ้อโกงขนาดใหญ่ แพลตฟอร์มการฟอกเงิน และเครือข่ายที่ซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์และการพนันที่ผิดกฎหมาย
และยังคงเป็นความท้าทายที่สำคัญของประชาคมโลกต่อไป


