แสงสีตระการตา! ชวนชมไฟประดับสะพานเจ้าพระยา เฉลิมพระเกียรติฯ
ตระการตา ชวนชม! กรมทางหลวงชนบท เตรียมเปิดไฟประดับสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568
เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติและแสดงความจงรักภักดี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ในวันที่ 3 มิถุนายน 2568
กรมทางหลวงชนบท (ทช.) กระทรวงคมนาคม เตรียมเปิดไฟประดับสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
การประดับไฟจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 – 4 มิถุนายน 2568 โดยจะเปิดไฟในเวลา 19.00 – 22.00 น.
และในวันที่ 3 มิถุนายน 2568 ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา จะขยายเวลาการเปิดไฟไปจนถึงเวลา 24.00 น. เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมเฉลิมฉลองและชื่นชมความงดงามยามค่ำคืนอย่างเต็มที่
สะพานที่จะเปิดไฟประดับในครั้งนี้ ได้แก่
- สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์
- สะพานกรุงธน (ซังฮี้)
- สะพานพระพุทธยอดฟ้า
- สะพานพระปกเกล้า
- สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
- สะพานภูมิพล 1 และ 2
การเปิดไฟประดับสะพานในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างบรรยากาศอันสวยงามยามค่ำคืนริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำ ประชาชนและนักท่องเที่ยวจะได้ล่องเรือชมวิวท่ามกลางแสงไฟระยิบระยับจากสะพาน พร้อมสัมผัสกับกลิ่นอายของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตริมแม่น้ำเจ้าพระยาอันทรงเสน่ห์
สำหรับข้อมูลสะพานแต่ละแห่งมีดังนี้
สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ (สะพานนนทบุรี 1)
- สร้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการสัญจรและระบายการจราจรในจังหวัดนนทบุรี โดยเฉพาะจากถนนรัตนาธิเบศร์ ถนนงามวงศ์วาน ถนนติวานนท์ และถนนนครอินทร์ รวมถึงแบ่งเบาภาระสะพานพระราม 5, สะพานพระนั่งเกล้า และสะพานพระราม 4
- ลักษณะเด่น: เป็นสะพานชนิด Extradosed Bridge แห่งแรกของประเทศไทย มีความยาวตัวสะพาน 460 เมตร และมี 6 ช่องจราจร
- การออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์สมัยรัตนโกสินทร์ โดยยอดเสาเป็นรูปดอกบัวบานและแกนกลางเป็นดอกบัวตูมเปล่งแสง
สะพานกรุงธน (ซังฮี้)
- สร้างขึ้นเพื่อแบ่งเบาการจราจรของสะพานพระพุทธยอดฟ้าที่หนาแน่นในขณะนั้น
- ลักษณะเด่น: เป็นสะพานชนิดปิดตายช่วงต่อเนื่องกัน มีโครงสร้างส่วนบนเป็นโครงเหล็ก ความยาวรวม 648.90 เมตร และมี 4 ช่องจราจร ชื่อ "ซังฮี้" เป็นชื่อที่ประชาชนเรียกขานมาตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง
สะพานพระพุทธยอดฟ้า (สะพานพุทธ)
- สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการสถาปนากรุงเทพมหานครครบ 150 ปี และเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รวมถึงเชื่อมการคมนาคมระหว่างพระนครกับธนบุรี
- ลักษณะเด่น: เดิมเป็นสะพานชนิดเปิด-ปิดได้ (Bascule Bridge) แต่ปัจจุบันไม่ได้ใช้งานแล้ว มีความยาวรวม 678 เมตร และมี 3 ช่องจราจร
- การออกแบบเป็นรูป "ลูกศร" สื่อถึงพระราชลัญจกรประจำพระองค์ของรัชกาลที่ 7
สะพานพระปกเกล้า
- สร้างขึ้นเพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรบนสะพานพระพุทธยอดฟ้า
- ลักษณะเด่น: สร้างขนานกับสะพานพระพุทธยอดฟ้า เป็นสะพานชนิดต่อเนื่องโครงสร้างคอนกรีตอัดแรง มีความยาวรวม 745 เมตร และมี 6 ช่องจราจร
- จุดเด่นคือมีช่องว่างตรงกลางสะพานที่เดิมเว้นไว้สำหรับรถไฟฟ้าลาวาลิน ซึ่งปัจจุบันปรับปรุงเป็น "สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา" หรือ "สะพานพระปกเกล้าสกายปาร์ค"
สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
- เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งที่หกที่สร้างขึ้นในกรุงเทพฯ เพื่อเชื่อมต่อถนนสาทรกับถนนกรุงธนบุรี
- ลักษณะเด่น: เป็นสะพานชนิดต่อเนื่องโครงสร้างคอนกรีตอัดแรง มีความยาวรวม 1,791 เมตร และมี 6 ช่องจราจร เดิมออกแบบให้มีช่องว่างขนาดใหญ่สำหรับรถไฟฟ้าลาวาลิน ซึ่งต่อมาถูกปรับใช้สำหรับระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส
สะพานภูมิพล 1 และ 2
- เป็นส่วนหนึ่งของโครงการถนนวงแหวนอุตสาหกรรมตามแนวพระราชดำริของรัชกาลที่ 9 เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯ และพื้นที่อุตสาหกรรมโดยรอบ
- ลักษณะเด่น: เป็นสะพานขึง (Cable-stayed Bridge) สะพานภูมิพล 1 ยาว 702 เมตร และสะพานภูมิพล 2 ยาว 582 เมตร แต่ละสะพานมี 7 ช่องจราจร
- การออกแบบมีลักษณะคล้าย "พระธำมรงค์" (แหวนหลวง) เพื่อถวายพระเกียรติแด่รัชกาลที่ 9 และเป็นสะพานที่มีความสำคัญทั้งด้านการคมนาคมและความงามทางสถาปัตยกรรมระดับโลก


