posttoday

จับ "3 พนักงานแบงก์" ร่วมมือ "จีนเทา" เปิดบัญชี แก๊งคอลเซ็นเตอร์"

21 พฤษภาคม 2568

งานเข้า! "3 พนักงานแบงก์" ร่วมมือ "จีนเทา" เปิดบัญชีให้ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ถูก ศปอส.บช.น. รวบ! ด้านแก๊งคอลฯจีนเทา หอบ 2,000 ล้าน หนีกลับประเทศทันที

ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ร่วมกันขยายผลสืบสวนกลุ่มคนร้ายสัญชาติจีนที่ มีพฤติกรรมเข้าข่ายต้องสงสัยว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 

 

โดยผลการสืบสวนขยายผล ได้สืบทราบว่ามีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนตระเวนกดเงินสดจากตู้ และ ถอนเงินสดจำนวนมากที่เคาน์เตอร์ธนาคาร 

จับ "3 พนักงานแบงก์" ร่วมมือ "จีนเทา" เปิดบัญชี "แก๊งคอลเซ็นเตอร์"

กลางเดือนมีนาคม พบว่ามีชาวจีนเปิดบัญชีธนาคาร จำนวน 15 บัญชี เมื่อเปิดบัญชีธนาคารแล้ว จะตระเวนกดเงินสดจากตู้ และถอนเงินสดจำนวนมากที่เคาน์เตอร์ธนาคาร พบว่ามีเงินที่ถูกถอนทั้งสิ้น 91 ล้านบาทภายใน 1–2 วัน ก่อนเดินทางออกนอกประเทศทันที 

 

 

จากการสืบสวนพบว่าเจ้าของบัญชีธนาคารชาวจีนทั้ง 15 ราย จะเดินทางเข้ามาในประเทศ โดยมีกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนที่อยู่ในประเทศไทยคอยอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มชาวจีน อาทิ ซื้อซิม โทรศัพท์ เปิดบัญชีธนาคาร

 

เมื่อเปิดบัญชีแล้วจะมีเงินถูกโอนเข้ามาให้กับบัญชีธนาคารทั้ง 15 บัญชี รวมเงินประมาณ 118 ล้านบาท 

 

จากการตรวจสอบระบบแจ้งความออนไลน์ทางเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าบัญชีธนาคารชาวจีนทั้ง 15 บัญชี มีการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว จำนวน 106 คดี 

 

นอกจากนี้ยังพบบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ใช้หลอกลวงอีก 462 บัญชี จากการตรวจสอบพบว่าบัญชีที่มีการแจ้งความแล้วจำนวน 2,084 คดี มูลค่าความเสียหายทั้งหมด 2,200 ล้านบาท

24 เม.ย.2568 

ศปอส.บช.น. ได้การจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่คอยจัดการ และอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มคนร้ายชาวจีนที่มาเปิดบัญชีและถอนเงินออกไปจำนวน 4 ราย

 

1. MR. YANG (นายหยาง) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา จับกุมโดย สน.บึงกุ่มเกี่ยวข้องเป็นกลุ่มจัดหาบัญชีม้า

 

2. MR. XIE (นายเซี่ย) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา จับกุมโดย สน.บึงกุ่ม เกี่ยวข้องเป็นกลุ่มจัดหาบัญชีม้า

 

3. MR. HANG (นายฮาง) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง จับกุมโดย สน.ประเวศ เกี่ยวข้องเป็นกลุ่มควบคุมการถอนเงิน

 

ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อั้งยี่ และร่วมกันฟอกเงิน” 

 

4. MR. WU (นายหวู) ถูกดำเนินคดีในข้อหา “เป็นธุระจัดหา เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี” นำส่งพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร เกี่ยวข้องเป็นกลุ่มควบคุมการถอนเงิน

จับ "3 พนักงานแบงก์" ร่วมมือ "จีนเทา" เปิดบัญชี "แก๊งคอลเซ็นเตอร์"

นอกจากนั้นขยายผลพบว่าในการเปิดบัญชีธนาคารของกลุ่มชาวจีนที่ธนาคารแห่งหนึ่งในอำเภอ บางละมุง จังหวัดชลบุรี มีกลุ่มเอเจนซี่และกลุ่มพนักงานธนาคารมีความเกี่ยวข้องกับขบวนการคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนดังกล่าว

ศปอส.ภ.2. ได้รวบรวมพยานหลักฐานนำไปสู่การขออนุมัติหมายจับกลุ่มคนที่เกี่ยวข้อง รวม 6 ราย และจับกุมโดยสภ.บางละมุงดังนี้

จับ "3 พนักงานแบงก์" ร่วมมือ "จีนเทา" เปิดบัญชี "แก๊งคอลเซ็นเตอร์"

1. นางสาวสิริลักษณ์ เกี่ยวข้องเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร

ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหา “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าว โดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้ข่าว หรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด” 

 

2. นางสาวชุติมา เกี่ยวข้องเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร

3. นายทรงพล เกี่ยวข้องเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร

ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าว โดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้ข่าว หรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด ,ร่วมกันเป็นผู้สนับสนุนกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน” 

จับ "3 พนักงานแบงก์" ร่วมมือ "จีนเทา" เปิดบัญชี "แก๊งคอลเซ็นเตอร์"

4. นางสาวมนธิดา เกี่ยวข้องเป็นล่าม

ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหา “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าว โดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้ข่าว หรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด” 

 

 

5. นายณรงค์ฤทธิ์ เกี่ยวข้องเป็นล่าม

ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหา “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าว โดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้ข่าว หรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด และเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาญชากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด” 

 

พล.ต.อ.ธัชชัยฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้เริ่มปรับตัวใช้วีซ่าท่องเที่ยวมาเปิดบัญชีด้วยตนเอง โดยมีเจ้าหน้าที่ธนาคารกลุ่มหนึ่งให้ความช่วยเหลือ ทาง ศปอส.ตร. จะได้มีการขยายผลในคดี จับกุม ยึดทรัพย์ กลุ่มคนร้ายที่เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด

 

ซึ่งยังมีบัญชีม้าที่เกี่ยวข้องอีกเป็นจำนวนมากมูลค่าความเสียหายเป็นหลักพันล้านบาท และในคดีนี้พบช่องว่างของการทำงานของธนาคาร ซึ่งจะต้องมีมาตรการเข้มงวดในการตรวจสอบมากขึ้นต่อไป