พยานกลับคำ! 'ทิดแย้ม' วางเกมเบี่ยงคดี "ยักยอกเงินวัดไร่ขิง"
พยานกลับคำ! "ทิดแย้ม–อรัญญาวรรณ" วางเกมเบี่ยงคดี? ยักยอกเงินวัดไร่ขิง ตำรวจ มั่นใจ! หลักฐานแน่น เส้นเงินใต้จีวรถึงเว็บพนัน
คดีตรวจสอบทุจริตยักยอกเงินวัดไร่ขิงเริ่มไม่หมู หลังพบว่า พยานบุคคลกลับคำให้การ ไม่ให้ความร่วมมือ ตำรวจเชื่อว่า นายแย้ม และน.ส.อรัญญาวรรณ มีการเตรียมคำให้การ และ จัดฉากพยานหลักฐานไว้ก่อนวันเข้าตรวจค้น
เพื่อเบี่ยงเบนคดีจากโอนเงินให้ น.ส.อรัญญาวรรณ เล่นพนันออนไลน์ เป็นกู้ยืมเงินแทน เชื่อว่าเป็นการปูทางตั้งหลักสู้คดี แต่ตำรวจไม่หนักใจ เพราะหลักฐานแน่น สเตทเม้นโอนเงินเชื่อมโยงชัด จากวัดถึงปลายทางเว็บพนัน
อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้(19 พ.ค.) ชุดสืบสวนสอบสวนและคณะทำงานจะเข้าไปตรวจสอบเพิ่มเติมที่วัดไร่ขิงอีกครั้งเพื่อสืบหาข้อเท็จจริงในบางประเด็นที่ยังมีข้อเคลือบแคลงสงสัย
พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. กล่าวว่า พนักงานสอบสวนยังคงเดินหน้า รวบรวมพยานหลักฐานเส้นทางการเงิน สอบปากคำพยานและผู้ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีวัดไร่ขิง จำนวนหลายบัญชีทยอยเข้ามาสอบปากคำ
โดยตั้งศูนย์ปฏิบัติงานที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน จากข้อมูลการสอบสวนปัจจุบัน พบความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินระหว่างนายแย้ม กับ น.ส.อรัญญาวรรณหลายช่องทาง ช่วงปี 2563 ถึง ปี 2567 รวมเป็นเงินกว่า 300 บาท
แยกออกเป็น
-บัญชีส่วนตัวของอดีตพระแย้ม โอนเงินให้น.ส.อรัญญาวรรณ ในช่วงปี 2566 รวมกัน 80 ล้านบาท
-บัญชีของอดีตพระเอกพจน์ หรือนายเอกพจน์ โอนเงิน และตระเวณนำเงินสดไปฝากตู้ธนาคารต่าง ๆ ให้ น.ส.อรัญญาวรรณ หลายรายการรวมแล้วกว่า 200 ล้านบาท
- บัญชีบุคคลอื่นอีก 1 บัญชีโอนเงินให้ น.ส.อรัญญาวรรณ อีก 60 ล้านบาท
ส่วนการตรวจสอบบัญชีภายในวัดไร่ขิง พบมีมากกว่า 20 บัญชี เป็นรูปแบบของการเปิดบัญชีเฉพาะกิจ เช่นเปิดโอนเงินสำหรับเช่าบูชาพระเครื่อง และกิจกรรมต่าง ๆ ของวัด
บัญชีของมูลนิธิภายในวัดไร่ขิง 3 บัญชี ในจำนวนที่กล่าวมาเบื้องต้น มี 7 บัญชีที่พนักงานสอบสวนใช้กล่าวหา นายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ในการยักยอกเงินวัด และยังอยู่ระหว่างตรวจสอบอีกหลายบัญชี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการนำกำลังเข้าตรวจค้นวัดไร่ขิง และ สถานที่ต่างๆ รวมถึงเชิญตัว พระลูกวัด และ บุคคลใกล้ชิดต่างๆ ของอดีตเจ้าอาวาส มาสอบปากคำในฐานะพยาน เมื่อที่ 16 พ.ค. ที่ผ่านมา
เพื่อสืบหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม พบว่า พยานบุคคลบางรายยังไม่ค่อยให้ความร่วมมือหรือให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่เจ้าหน้าที่มากนัก จะยอมตอบคำถามก็ต่อเมื่อเจ้าหน้าที่นำหลักฐานข้อเท็จจริงมากางให้ดูต่อหน้า จนไม่อาจเลี่ยงตอบได้
แม้ในขณะพูดคุยสักถามข้อเท็จจริง พยานบางรายจะยอมรับว่า อดีตเจ้าอาวาส เคยใช้ให้ไปเบิกถอนเงินของวัดออกมาเป็นเงินสดแล้วนำไปฝากตู้อัตโนมัติโอนต่อไปยังบัญชีธนาคารของ น.ส.อรัญญาวรรณ เพื่อเล่นพนันจริง
แต่สุดท้ายเมื่อเข้าสู่กระบวนการสอบปากคำที่จะมีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างเป็นทางการ พยานบุคคลบางรายกลับเปลี่ยนคำให้การอ้างว่า อดีตเจ้าอาวาส ไม่ได้เล่นพนันออนไลน์ แต่อย่างใด เงินที่โอนไปให้ น.ส.อรัญญาวรรณ เป็นเพียงการกู้ยืมเงินเท่านั้น
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังตั้งข้อสังเกตุอีกว่า วัตถุพยานหลักฐานบางส่วนมีลักษณะคล้ายกับถูกจัดวางหรือจัดเตรียมไว้เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ตรวจยึด โดยเฉพาะหลักฐานเกี่ยวกับเอกสารสัญญาการกู้ยืมเงินของน.ส.อรัญญาวรรณ กับมูลนิธิวัดรวมไปถึงเอกสารหลักฐานสลิปโอนเงินบางส่วน
คล้ายต้องการเบี่ยงเบนแนวโน้มทิศทางคดีให้มุ่งไปในทำนองว่า เงินที่ให้ น.ส.อรัญญาวรรณ ไปนั้นเป็นการกู้ยืม ไม่ใช่นำไปเล่นพนันออนไลน์ ทั้งนี้ก็เพื่อให้สอดคล้องกับคำให้การของผู้ต้องหาทั้งสองราย ที่ให้การกับเจ้าหน้าที่ไว้ก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามแม้ว่าการพยายามเบี่ยงเบนประเด็นจากเล่นพนันออนไลน์ ไปเป็นการกู้ยืมเงิน จะไม่ช่วยทำให้ทั้งคู่พ้นจากความผิดในทางคดี เพราะสุดท้ายการนำเงินวัดออกไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ หรือ ใช้ส่วนตัวก็ยังถือเป็นความผิด
แต่การเบี่ยงเบนทิศทางคดีให้เป็นไปในแนวทางดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีมองว่า เป็นการปูทาง เพื่อตั้งหลักวางแนวทางต่อสู้คดีให้ง่ายขึ้นในภายหลัง
สอดคล้องกับข้อมูลสืบสวนที่พบว่า ก่อนหน้านี้ ในขณะที่ น.ส.อรัญญาวรรณ ถูกตำรวจ บช.สอท. จับกุมดำเนินคดีพัวพันรับผลประโยชน์จากเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ “LAGALAXY911” เมื่อช่วงปลายปี 2567 ที่ผ่านมา เจ้าตัวเองก็พยายามต่อสู้คดี ด้วยการอ้างว่า ตัวเองเป็นเพียงลูกค้าหรือผู้เล่นพนันเท่านั้น ไม่ใช่นายหน้าหรือโบรกเกอร์รับแทงพนันแต่อย่างใด
ส่วนเงินจำนวนมาก ที่มีคนโอนเข้ามา อ้างว่าเป็นเงินที่กู้ยืมมาลงทุนธุรกิจ จึงทำให้มองว่าการกระทำดังกล่าวก็เพื่อต้องการเปลี่ยนข้อหา จากผู้จัดให้มีการเล่นพนัน ไปเป็น ผู้ร่วมเล่นพนันแทน เพื่อให้ได้รับโทษน้อยลง รวมถึงได้รับทรัพย์สินต่างๆมูลค่ารวมหลายสิบล้านบาท ที่ถูกอายัดไปกลับคืนมา


