การบินไทยแจ้งด่วน! เลี่ยงน่านฟ้าอินเดีย-ปากีสถานชั่วคราว
การบินไทยแจ้งด่วน! เปลี่ยนเส้นทางบินชั่วคราว เลี่ยงน่านฟ้าอินเดีย-ปากีสถาน หลังสมรภูมิเอเชียใต้ปะทุเดือด
การบินไทยประกาศปรับเปลี่ยนเส้นทางบินหลีกเลี่ยงพื้นที่ขัดแย้งในเอเชียใต้ผ่านทางบัญชี Facebook อย่างเป็นทางการ โดยมีเนื้อหาดังนี้
การบินไทยปรับเปลี่ยนเส้นทางบินหลีกเลี่ยงพื้นที่ขัดแย้งในเอเชียใต้
ตามที่ประเทศปากีสถานประกาศปิดน่านฟ้าและสนามบินภายในประเทศบางแห่ง จากกรณีความขัดแย้งในภูมิภาคเอเชียใต้ ส่งผลกระทบต่อเส้นทางบินของเที่ยวบินระหว่างประเทศที่ทำการบินผ่านน่านฟ้าประเทศปากีสถานตั้งแต่ช่วงนั้น
เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ขอแจ้งให้ทราบว่าบริษัทมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงเส้นทางบินของเที่ยวบินของบริษัทฯ
ในเส้นทางบินยุโรปและเอเชียใต้ ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันพุธที่ 7 พฤษภาคม 2568 ส่งผลกระทบให้อาจเกิดความล่าช้าของเที่ยวบินบางเที่ยวบินในเส้นทางดังกล่าว
บริษัทฯ จะติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด โดยขอความกรุณาผู้โดยสารที่จะเดินทางในเส้นทางดังกล่าว ติดตามข่าวสารและตรวจสอบตารางการบิน
และรายละเอียดความคืบหน้าได้ทางเฟซบุ๊คฝ่ายสื่อสารองค์กรของบริษัท THAI Corporate Communication หรือ THAI Contact Center
สำหรับเหตุการณ์ความไม่สงบในภูมิภาคเอเชียใต้นั้น สถานการณ์ชายแดนอินเดีย-ปากีสถานทวีความตึงเครียดถึงขีดสุด เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
อินเดียได้เปิดปฏิบัติการทางทหารโจมตีเป้าหมายหลายแห่งในปากีสถานและเขตแคชเมียร์ที่อยู่ภายใต้การบริหารของปากีสถาน ส่งผลให้มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 ราย
ด้านปากีสถานประกาศกร้าวว่าจะตอบโต้อย่างเด็ดขาด เหตุการณ์นี้นับเป็นความรุนแรงครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายปีระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านที่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครองและเป็นศัตรูกันมายาวนาน
รายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์อ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและพยานในพื้นที่ระบุว่า เกิดการยิงปืนใหญ่และการปะทะกันอย่างดุเดือดในอย่างน้อย 3 จุดตามแนวเส้นควบคุม (Line of Control - LoC) ในภูมิภาคแคชเมียร์ ซึ่งเป็นดินแดนพิพาทสำคัญระหว่างอินเดียและปากีสถาน
ทั้งนี้ ความรุนแรงปะทุขึ้นภายหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญเมื่อวันที่ 22 เมษายน ที่กลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ก่อเหตุสังหารนักท่องเที่ยวชาวฮินดูถึง 26 รายในเขตแคชเมียร์ของอินเดีย
นับเป็นการโจมตีพลเรือนครั้งนองเลือดที่สุดในรอบเกือบสองทศวรรษ การโจมตีดังกล่าวได้สร้างแรงกดดันอย่างหนักต่อรัฐบาลอินเดียให้ดำเนินการตอบโต้
ความเคลื่อนไหวทางทหารครั้งนี้ส่งผลให้ประชาคมระหว่างประเทศแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อเสถียรภาพในภูมิภาคเอเชียใต้
เนื่องจากทั้งอินเดียและปากีสถานต่างมีอาวุธนิวเคลียร์และมีประวัติความขัดแย้งที่ยาวนานเกี่ยวกับประเด็นแคชเมียร์
สถานการณ์ล่าสุดยังคงต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดถึงท่าทีและการตอบโต้จากฝ่ายปากีสถาน รวมถึงความเป็นไปได้ในการเจรจาเพื่อลดความตึงเครียดที่เกิดขึ้น


