posttoday

4 โบราณวัตถุเตรียมคืนแผ่นดินไทย หลังหายไปโผล่ที่สหรัฐ กว่า 60 ปี!

04 พฤษภาคม 2568

4 โบราณวัตถุเตรียมคืนแผ่นดินไทย หลังหายไปกว่า 60 ปี จากการถูกลักลอบขุดไปจากบุรีรัมย์ และขายให้กับขบวนการฟอกภาษีด้วยการซื้อขายโบราณวัตถุที่สหรัฐ

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าเกี่ยวกับการติดตามโบราณวัตถุกลุ่มประโคนชัยกลับคืนสู่ประเทศไทยวันนี้ (4 พฤษภาคม 2568)  

เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2568 สำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (Homeland Security Investigation - HSI) ของสหรัฐอเมริกา ได้รายงานข้อมูลให้กรมศิลปากรทราบว่า พิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชีย เมืองซานฟรานซิสโก ได้ดำเนินการถอดถอนโบราณวัตถุไทยจำนวน 4 รายการ ออกจากทะเบียนพิพิธภัณฑ์โดยสมบูรณ์ เพื่อเตรียมส่งคืนประเทศไทย

สำหรับโบราณวัตถุทั้ง 4 รายการ ประกอบด้วย พระโพธิสัตว์ 3 องค์ และพระพุทธรูป 1 องค์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มประติมากรรมที่ค้นพบในพื้นที่อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ (ปัจจุบัน คือ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ) และถูกลักลอบนำออกนอกประเทศตั้งแต่ปี พ.ศ. 2507  

ภายหลังพบว่าโบราณวัตถุเหล่านี้ถูกลักลอบขุดไปจากปราสาทเขาปลายบัด 2 ซึ่งคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย จึงได้จัดทำข้อมูลโบราณวัตถุกลุ่มประโคนชัยที่เก็บรักษาในพิพิธภัณฑ์ของสหรัฐอเมริกา และประสานงานกับเจ้าหน้าที่สืบสวน สำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ช่วยดำเนินการติดตามกลับคืนสู่ประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 เป็นต้นมา

ทั้งนี้ คณะกรรมการของพิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชีย ได้เริ่มกระบวนการถอดถอนโบราณวัตถุออกจากทะเบียนของพิพิธภัณฑ์ในขั้นต้นเมื่อปลายเดือนกันยายน 2567 ต่อมาได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสีย และรวบรวมข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมภายในระยะเวลา 6 เดือน ก่อนที่จะมีการประชุมครั้งสุดท้ายของคณะกรรมการพิพิธภัณฑ์ ซึ่งมีมติเป็นเอกฉันท์เมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา ให้ถอดถอนโบราณวัตถุดังกล่าวออกจากทะเบียนพิพิธภัณฑ์อย่างสมบูรณ์

โดยกรมศิลปากรจะประสานงานร่วมกับสำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส และพิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชีย ซานฟรานซิสโก เพื่อกำหนดแนวทางและขั้นตอนการส่งมอบโบราณวัตถุทั้ง 4 รายการกลับมายังประเทศไทยต่อไป  

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า

 

การส่งคืนโบราณวัตถุกลุ่มประโคนชัยในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการปกป้องและรักษามรดกทางวัฒนธรรมของชาติให้กลับคืนสู่มาตุภูมิอย่างสมเกียรติ 

 

" รัฐบาลไทยขอยืนยันถึงเจตนารมณ์อันแน่วแน่ในการติดตามและนำโบราณวัตถุที่ถูกลักลอบนำออกนอกประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อปกป้อง รักษา และสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมของชาติให้คงอยู่คู่แผ่นดินไทยอย่างยั่งยืนตลอดไป"

 

ที่มาของโบราณวัตถุ

 

ดร. ดำรง ลีนานุรักษ์ อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เผยว่า คณะกรรมการกำกับ San Francisco Asian Art Museum (SFAAM) ได้ให้ข้อมูลเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568 ที่ผ่านมาว่า

ประติมากรรมสำริดประโคนชัยทั้ง 4 องค์ อยู่ในรายการโบราณวัตถุ 32 รายการที่รัฐบาลไทยส่งหนังสือไปยังรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการตั้งแต่ พ.ศ. 2562 โดยหน่วยสืบสวนเพื่อความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ และอัยการกลาง นำขึ้นศาล ขอหมายเรียก และเจรจากับพิพิธภัณฑ์ 7 แห่ง

เป็นที่ทราบกันว่า ชาวบ้านที่ลักลอบขุดได้ขายโบราณวัตถุชุดนี้ให้ผู้รับซื้อ ก่อนส่งออกต่างประเทศให้บริษัท Spink and Son ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยนายดักลาส แลชฟอร์ด (Dauglash Latchford) ก่อนไปถึงขบวนการเสนอขายระดับโลก ด้วยความร่วมมือกับนางเอ็มมา ซี บังเกอร์ (Emma C. Bunker) ซึ่งเขียนหนังสือเกี่ยวกับประติมากรรมชุดนี้และโบราณวัตถุอื่น ๆ อย่างละเอียด อย่างไรก็ตาม นายดักลาส แลชฟอร์ด ซึ่งถูกฟ้องร้องแต่เสียชีวิตลงก่อนขึ้นศาล เรื่องจึงพับไป

 

ทางเพจ สำนึก 300 พระองค์ ที่เริ่มต้นโดย ดร. ทนงศักดิ์ หาญวงษ์ และ นายโชติวัฒน์ รุญเจริญ เป็นผู้จุดประกายการทวงคืนดังกล่าว ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโบราณวัตถุชิ้นดังกล่าว นักวิชาการไทย เรียกว่า ศิลปะทวารวดี-อีสาน ( ไม่ใช่เขมร ) ส่วนนักวิชาการการฝรั่ง เรียกว่า ศิลปะประโคนชัย สร้างตามคติความเชื่อทางพุทธศาสนาแบบมหายาน ผลิตด้วยโลหะประเภท สำริด ด้วยวิธีสูญผึ้ง ( Lost Wax ) คือ ทำเสร็จ ทุบแบบทิ้ง จึงมีองค์เดียวในโลกเสมอ

สำหรับโลหะที่นำมาใช้ส่วนใหญ่ ก็คือ ทองแดง และ ดีบุก แแต่ก็พบว่ามีโลหะประเภทอื่นๆ ผสมเข้ามาด้วยจึงทำให้สีสันของแต่ละองค์ ไม่ค่อยเหมือนกัน โดยการทวงคืนครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างไทยกับอเมริกาเพื่อปราบพวกใช้โบราณวัตถุในการฟอกภาษี ซึ่งทำให้อเมริกาเสียหายหลายพันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีอัยการสหรัฐ และเจ้าหน้าที่ Homeland Security ช่วยติดตาม ดำเนินคดีกับพิพิธภัณฑ์ ทั้ง 7 แห่ง ที่ครอบครอง.

ข่าวล่าสุด

กัมพูชา ยิงจรวด BM-21 ตกพื้นที่พลเรือน อ.กันทรลักษ์ บาดเจ็บ 4