posttoday

สำรวจ 8 ลักษณะอาชีพของชาวจีนอพยพใหม่ เข้ามาตั้งถิ่นฐานทำอะไรในไทย

24 กุมภาพันธ์ 2568

แม้ว่าการอพยพของชาวจีนออกมาตั้งถิ่นฐานในดินแดนต่าง ๆ ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่กลับมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นด้วยปัจจัยหลายประการที่มีผลต่อการตัดสินใจในแต่ละคน รวมทั้งความต้องการในการหาคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า ทั้งในแง่เศรษฐกิจ การศึกษา และสิทธิพื้นฐานทางสังคมและการเมือง

หากมองว่าประเทศไทย เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ชาวจีนเลือกเข้ามาอยู่อาศัยมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกก็คงไม่ผิด

 

เพราะเมื่อดูข้อมูลปี 2566 จาก Statista ว่าด้วย ประชากรโพ้นทะเลของจีนที่อาศัยอยู่ในประเทศต่าง ๆ พบว่า อินโดนีเซียเป็นชาติที่มีประชากรจีน (เกิดในจีนแล้วย้ายเข้ามาอาศัย) มากที่สุดอันดับหนึ่งของโลกที่ 11.2 ล้านคน รองลงมาคือ ประเทศไทย อยู่ที่ 7 ล้านคน เฉพาะตัวเลขอย่างเป็นทางการ 

 

นอกจากนั้นข้อมูลปี 2567 ของกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ อว.ยังระบุว่า มหาวิทยาลัยไทย มีนักศึกษาจีนที่อยู่ในระบบมากเฉียด 3 หมื่นคน

 

ซึ่งการเข้ามาของชาวจีนกลุ่มนี้เรียกว่า "ชาวจีนอพยพใหม่" โดยชาวจีนในยุคนี้จะต่างจากยุค "เสื่อผืนหมอนใบ" อย่างสิ้นเชิง

ที่อพยพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ เมื่อหลังสงครามโลกครั้งที่สองหรือราวๆ 70-80 ปีก่อน หนีภัยสงคราม หรือมาเผชิญโชคในเมืองไทย ส่วนใหญ่จะมาตัวเปล่า แทบจะไม่มีสมบัติใดๆ ติดตัว  

ว่ากันว่าชาวจีนยุคใหม่คือคนที่ออกนอกประเทศหลังจีนเปิดประเทศ... 

 

ดร.กุลนรี นุกิจรังสรรค์ สถาบันเอเชียศึกษา ได้วิเคราะห์เกี่ยวกับชาวจีนอพยพใหม่ว่า เป็น ชาวจีนที่อพยพออกนอกประเทศหลังจีนเปิดประเทศ (หลังปี ค.ศ.1978) และมีการปักหลักตั้งถิ่นฐานในประเทศปลายทางอย่างถาวรหรือกึ่งถาวร

 

ซึ่งชาวจีนเหล่านั้นอาจยังคงถือสัญชาติจีนหรือเปลี่ยนสัญชาติแล้วก็ได้ ชาวจีนอพยพใหม่ประกอบด้วยกลุ่มคนที่หลากหลาย ตั้งแต่นายทุนใหญ่ระดับประเทศ ชนชั้นกลางทั่วไปไปจนกระทั่งชนชั้นแรงงานระดับรากหญ้า

 

อย่างไรก็ดี ไม่ได้หมายความว่าชาวจีนอพยพใหม่เป็นกลุ่มนายทุนจีนสีเทาหรือเป็นกลุ่มที่เข้ามาประกอบกิจกรรมในเชิงลบแต่เพียงอย่างเดียว ชาวจีนอพยพใหม่มีความหมายที่กว้างครอบคลุมชาวจีนหลากหลายกลุ่มคน

แล้วชาวจีนอพยพใหม่มาทำอะไรในไทยบ้างในปี 2568?

 

ดร.กุลนรี ระบุว่า ส่วนใหญ่เลือกอพยพมาไทยเพราะไทยเป็นประเทศที่มีความเจริญในระดับหนึ่ง เป้าหมายในการอพยพมาไทยของชาวจีนกลุ่มนี้คือเพื่อแสวงหาโอกาสทางเศรษฐกิจ แสวงหาชีวิตที่ดีกว่าเดิม และแสวงหาแหล่งพำนักใหม่ ซึ่งไทยเป็นประเทศที่สามารถตอบโจทย์ชาวจีนกลุ่มนี้ได้เพราะมีโอกาสทางเศรษฐกิจสูง

 

อีกทั้งยังมีโอกาสเติบโตทางเศรษฐกิจ กล่าวคือมีโอกาสในการประกอบอาชีพ ลงทุน ดำเนินธุรกิจต่างๆ ชาวจีนอพยพใหม่ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในไทยมีการประกอบอาชีพที่หลากหลาย อาทิ 


1.นักลงทุน เช่น การจัดตั้งโรงงานอุตสาหกรรมทั้งขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ 

 

2.ค้าขาย เปิดกิจการต่างๆ ร้านค้าปลีก-ส่ง ร้านอาหาร ลักษณะกิจการการค้าของชาวจีนอพยพใหม่สามารถจำแนกได้เป็น 3 ลักษณะใหญ่ 

  • จำหน่ายสินค้าของไทยเพื่อคนจีน เช่น เครื่องสำอาง หมอนยางพารา เครื่องหนัง ฯลฯ 
  • จำหน่ายสินค้านำเข้าจากจีนเพื่อคนไทย เช่น เครื่องนอน ผ้าม่าน เครื่องใช้ไฟฟ้า ของใช้จิปาถะ ฯลฯ 
  • จำหน่ายสินค้านำเข้าจากจีนเพื่อคนจีนในไทย เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค วัตถุดิบในการปรุงอาหาร ฯลฯ

 

3.เปิดบริษัท เช่น บริษัทนำเข้า-ส่งออกสินค้าไทย-จีน บริษัทขนส่งระหว่างประเทศ หรือธุรกิจการค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับไทย-จีน 

 

4.สอนภาษาจีน มีชาวจีนอพยพใหม่จำนวนมากประกอบอาชีพเป็นครู-อาจารย์ในสถาบันการศึกษาต่างๆ ทั้งของรัฐและเอกชน และยังมีบางส่วนเปิดธุรกิจโรงเรียนหรือสถาบันสอนภาษาเป็นของตนเอง

 

5.ติดตามคู่สมรส มีชาวจีนจำนวนไม่น้อยอพยพมาไทยเพราะติดตามคู่สมรสชาวไทยมา โดยเลือกที่จะมาปักหลักตั้งถิ่นฐานในไทยด้วยเห็นว่ามีวิถีชีวิตที่สบาย มีโอกาสทำมาหากินมากกว่าอยู่จีน 

 

6.ติดตามลูก ชาวจีนที่อพยพมาเพื่อติดตามลูกหลานมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 

ส่วนใหญ่นิยมส่งลูกหลานมาเรียนในโรงเรียนนานาชาติในไทย (โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต) เนื่องจากค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพในไทยไม่สูงมาก 

 

7.เกษียณอายุ การมาเกษียณอายุและใช้ชีวิตหลังเกษียณในไทยเริ่มมีปรากฏให้เห็นมากขึ้นในช่วงระยะไม่กี่ปีที่ผ่านมา 

โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีอากาศดี วิถีชีวิตเรียบง่าย มีสถานพยาบาลรองรับ

 

ขณะที่ไทยเองก็มีการออกวีซ่าเกษียณอายุ (Non-O) ให้แก่ชาวต่างชาติโดยมีข้อจำกัดที่ไม่ยุ่งยากจึงมีชาวจีนย้ายถิ่นฐานเข้ามาเพิ่มขึ้นเพื่อการนี้ 

 

ระยะหลังจึงเริ่มมีนายทุนจีนเข้ามาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (คอนโด) เพื่อรองรับผู้สูงอายุชาวจีนที่ต้องการมาใช้ชีวิตบั้นปลายในไทยด้วย ด้านที่พักหรือที่อยู่อาศัยก็มีราคาไม่สูง โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับราคาที่อยู่อาศัยในจีน 

อีกทั้งยังมีกฎหมายที่เปิดช่องให้ชาวต่างชาติสามารถซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองได้ ประเทศไทยจึงถือเป็นสวรรค์แห่งหนึ่งของชาวจีนอพยพใหม่ 

 

8.อาชีพใหม่ๆ อย่างอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) บนสื่อสังคมออนไลน์ก็มีปรากฏให้เห็น 

 

สำรวจ 8 ลักษณะอาชีพของชาวจีนอพยพใหม่ เข้ามาตั้งถิ่นฐานทำอะไรในไทย

 

ที่กล่าวมาเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ยังมีอาชีพอื่นๆ อีก ในจำนวนนี้มีจำนวนมากที่ประกอบอาชีพโดยผิดกฎหมาย อาทิ ไม่มีใบอนุญาตทำงาน ใช้วีซ่าเข้าเมืองผิดประเภท อยู่เกินกำหนดวีซ่า (overstay) เป็นต้น 

 

ทั้งนี้ยังพบว่าชาวจีนอพยพใหม่จำนวนมากเข้าประเทศไทยมาด้วยวีซ่าท่องเที่ยวเพื่อหางาน บางรายไปสมัครเรียนตามสถาบันการศึกษาต่างๆ เพื่ออาศัยวีซ่านักเรียนในการอยู่ไทย 

 

นอกจากนี้ยังมีชาวจีนจำนวนมากไม่ได้มีงานประจำแต่ประกอบอาชีพฟรีแลนซ์ทั่วไป เช่น รับแปลเอกสาร รับพาเที่ยว รับหิ้ว (pre-order) สินค้าไทย-จีน เป็นต้น

 

ทำอาชีพในไทย แต่เกี่ยวพันกับชาวจีนด้วยกัน

 

เป็นที่น่าสังเกตว่าลักษณะการประกอบอาชีพของชาวจีนอพยพใหม่นั้นมักจะเกี่ยวพันกับชาวจีนด้วยกัน หรือเกี่ยวพันกับประเทศแม่ของตน เช่น การค้าขาย หากไม่จำหน่ายสินค้าของจีนก็เป็นการจำหน่ายให้กับคนจีน 

 

หากทำธุรกิจมักเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับจีนหรือเพื่อรองรับชาวจีน เช่น ธุรกิจท่องเที่ยวเพื่อนักท่องเที่ยวจีน ร้านอาหารจีน สอนภาษาจีน เป็นต้น

 

ดร.กุลนรี ยกตัวอย่างกรณีของตู้ห่าวที่โดนจับก็เนื่องมาจากการเปิดผับจินหลิงย่านยานนาวา ซึ่งเป็นผับวีไอพีที่ต้อนรับเฉพาะลูกค้าชาวจีนเท่านั้น ขณะที่บริษัทนำเที่ยวของตู้ห่าวที่ภูเก็ตก็เป็นบริษัทนำเที่ยวครบวงจรที่รับเฉพาะกรุ๊ปทัวร์จีนเช่นเดียวกัน


 

ที่มาข้อมูล : สถาบันเอเชียศึกษา

ข่าวล่าสุด

กต.ชี้ กัมพูชาปิดด่านห้ามคนไทยกลับประเทศขัดกฎหมายระหว่างประเทศ