กรมชลฯปรับระบายน้ำเพิ่มครั้งแรกในรอบ7วัน ท้ายเขื่อนเจ้าพระยารับน้ำสูง
เขื่อนเจ้าพระยาปรับการระบายน้ำเพิ่ม 1,999 ลบ.ม./วินาที ครั้งแรกในรอบ7วัน ขณะที่สถานการณ์น้ำเหนือล้นทุ่งบางระกำ 118% ปริามาณน้ำ 474 ล้าน ลบ.ม.ส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนมีปริมาณสูงขึ้นกระทบ อ่างทอง สิงห์บุรี อยุธยา
กรมชลประทาน แจ้งว่า ขณะเขื่อนเจ้าพระยาได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำ ในอัตรา 1,999 ลบ.ม./วินาที ซึ่งเป็นการขึ้นครั้งแรกในรอบ7วัน เพราะก่อนหน้านี้ เขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำที่ระดับ 1,899 ลบ.ม./วินาที
สาเหตุที่เขื่อนเจ้าพระยา ปรับเพิ่มการระบายขึ้น 100 ลบ.ม./วินาที เนื่องจากสถานการณ์ฝนตกในพื้นที่ภาคเหนือ ทำให้มีปริมาณน้ำฝนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มสูงขึ้นในบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ดังนี้
คลองโผงเผง จ.อ่างทอง
วัดไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง
วัดสิงห์ อ.อินทร์บุรี และ อ.เมือง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี
คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา
ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย)
อย่างไรก็ตามกรมชลประทานยันยืนว่า เขื่อนเจ้าพระยายังควบคุมการปรับเพิ่มการะบายน้ำไม่เกิน 2,000 ลบ.ม./วินาที
และการปรับการระบายน้ำในอัตราดังกล่าว ส่งผลให้ ทุ่งบางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก รับน้ำเข้าทุ่งแล้ว
204,053 ไร่ (77%) ปริมาณน้ำ 474 ล้าน ลบ.ม (118%) (ข้อมูล ณ เวลา 09.00น.วันที่ 4ตุลาคม 2567 )
กรมชลประทาน
รายงานสถานการ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา วันนี้ 4 ต.ค.67 เวลา 09.00 น.
สถานี C2 อ.เมืองนครสวรรค์
ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,282 ลบ.ม./วินาที
แนวโน้ม : เพิ่มขึ้น
ระดับน้ำ : เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 20 ซม. แต่ยังต่ำกว่าตลิ่งอยู่ 2.18 ม.
สถานี C13 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท
ปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,999 ลบ.ม/วินาที
แนวโน้ม : เพิ่มขึ้น
ระดับน้ำท้ายเขื่อน : เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 31 ซม. แต่ยังต่ำกว่าตลิ่งอยู่ 1.84 ม.
กรมชลประทานระบุด้วยว่า สถานการณ์น้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อยู่ในสถานการณ์เฝ้าระวังระดับอย่างใกล้ชิดหากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น และมีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยากรมชลประทานจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป
ที่มา
กรมชลประทาน