น้ำท่วม67: มวลน้ำเหนือผ่านเขื่อนเจ้าพระยาถึงอยุธยาจม5อำเภอ
มวลน้ำเหนือสะสมไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 1,500 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำท้ายเขื่อนพื้นที่ลุ่มต่ำปรับเพิ่มสูงขึ้น กรมชลประทานประสานกฟผ.ลดการระบายน้ำเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ลดภาระการระบายน้ำสู่พื้นที่ตอนล่าง
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ ประจำวันที่ 3 ก.ย. 67 เวลา 7.00 น.ว่า ประเทศไทยยังเกิดสถานการณ์น้ำท่วม 67 ในพื้นที่ 8จังหวัดได้แก่
จ.เชียงราย (อ.แม่สาย เทิง ขุนตาล เวียงแก่น และแม่สรวย)
จ.ลำปาง (อ.แจ้ห่ม และงาว) จ.แม่ฮ่องสอน (อ.เมืองฯ )
จ.พะเยา (อ.เมืองฯ และดอกคำใต้ )
จ.สุโขทัย (อ.เมืองฯ ศรีสัชนาลัย สวรรคโลก ศรีสำโรง ศรีนคร และกงไกรลาศ)
จ.พิษณุโลก (อ.เมืองฯ บางระกำ บางกระทุ่ม ชาติตระการ และพรหมพิราม)
จ.พระนครศรีอยุธยา (อ.พระนครศรีอยุธยา เสนา บางบาล ผักไห่ บางไทร และบางปะอิน )
จ.หนองคาย (อ.เมืองฯ สังคม ศรีเมืองใหม่ ท่าบ่อ และรัตนวาปี)
เนื่องจากมีปริมาณน้ำสะสมไหลลงสู่บริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ในอัตราที่เพิ่มขึ้น ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยายกตัวสูงขึ้นตามไปด้วย เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ กรมชลประทานจึงได้รับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา และปรับการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 1,450 ลบ.ม./วินาที และประสาน กฟผ.พิจารณาปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ ร่วมกับปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ควบคู่ไปด้วย เพื่อช่วยลดภาระการระบายน้ำในพื้นที่ตอนล่าง
ทั้งนี้ จากปริมาณน้ำเหนือที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จะส่งผลให้ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 1,500 ลบ.ม./วินาที คาดว่าจะทำให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา(แม่น้ำน้อย) เพิ่มสูงขึ้นอีก
สำหรับปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่
ภาคเหนือ : จ.อุทัยธานี (85มม.)
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.หนองบัวลำภู (96มม.)
ภาคกลาง : จ.สมุทรปราการ (99มม.)
ภาคตะวันออก : จ.ชลบุรี (160มม.)
ภาคตะวันตก : จ.กาญจนบุรี (103 มม.)
ภาคใต้ : จ.พังงา (149มม.)


