posttoday

"ไทยคม" เดินหน้ากระจายสัญญาณ หวังทุกภาคส่วนเข้าถึงการสื่อสารขั้นพื้นฐาน

26 ตุลาคม 2566

ปฐมภพ สุวรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยคม ชี้ ระบบสื่อสารทางไกลผ่านดาวเทียม “Telemedicine” เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ห่างไกล เข้ารับบริการทางการแพทย์ง่ายขึ้น เร่งขยายพื้นที่สัญญาณ หวังทุกภาคส่วนเข้าถึงการสื่อสารขั้นพื้นฐาน

GISTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) จัดงาน THAILAND SPACE WEEK 2023 "FOSTERING GLOBAL VALUE CHAIN" เชื่อมไทยสู่อุตสาหกรรมอวกาศโลก ตั้งแต่วันที่ 25-27 ตุลาคม 2566 เวลา 09.00 – 17.00 น. ณ Plenary hall 1-2 ชั้น 1 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร

สำหรับเวทีเสวนาในหัวข้อ Plenary V - New Space Economy for Thailand's Next Era

เมื่อถามว่าในฐานะที่ไทยคมเป็นบริษัทแรกของไทยที่ปล่อยดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจร นับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2534 สิ่งที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตคนไทยหลังดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรคืออะไร

นายปฐมภพ สุวรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยคม ให้ความเห็นว่า สำหรับประโยชน์ของการปล่อยดาวเทียมในยุคแรกคงเป็นเรื่องของการสื่อสาร และการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ช่วงเวลานั้นประเทศไทยยังมีช่องโทรทัศน์เพียง 4-5 ช่อง แต่เมื่อเรานำเทคโนโลยี Direct-to-Home หรือ การส่งสัญญาณโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมถึงผู้รับตามบ้าน ทำให้มีช่องโทรทัศน์ดาวเทียมเกิดขึ้นเยอะมาก โดยในช่วงพีคมีช่องทีวีดาวเทียมมากถึง 300-400 ช่อง ซึ่งถือเป็นประโยชน์สำหรับภาคประชาชนที่มีทางเลือกเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้มากขึ้น ในราคาที่จับต้องได้

ขณะที่ช่วงเวลาถัดมา ไทยคมได้พัฒนาเทคโนโลยี Broadband ผ่านดาวเทียม คือการใช้ประโยชน์จากดาวเทียมเพื่อช่วยในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ตรงนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในด้านการสื่อสารของสังคมไทย ที่ในยุคนั้นเครื่องมือเพื่อการสื่อสารยังมีตัวเลือกที่ไม่มากนัก

อีกหนึ่งสิ่งที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับคนไทยคือการสื่อสารทางไกล เมื่อเกิดเทคโนโลยีใหม่ขึ้น แอปพลิเคชั่นใหม่ๆย่อมเกิดขึ้นตาม ตอนนี้เรามีระบบ Telemedicine ที่สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ผ่านดาวเทียม ซึ่งผู้ป่วยและแพทย์สามารถพูดคุยกันได้แบบ Real-time นอกจากนี้ยังช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์และช่วยให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้ารับบริการทางการแพทย์ได้สะดวกยิ่งขึ้น แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องขยายสัญญาณให้ครอบคลุมทุกพื้นที่เพื่ออุดช่องโหว่ด้านความเหลื่อมล้ำ และให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการสื่อสารขั้นพื้นฐานได้

"ไทยคม" เดินหน้ากระจายสัญญาณ หวังทุกภาคส่วนเข้าถึงการสื่อสารขั้นพื้นฐาน

หากพูดถึงเรื่องเทคโนโลยีอวกาศ ที่ผ่านมาประเทศไทยถูกมองว่ามักจะซื้อเทคโนโลยีจากต่างชาติเข้ามาใช้ แทนที่จะพัฒนาเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมของตัวเอง นายปฐมภพ ระบุว่า ในช่วงแรกเราต้องยอมรับว่าเรามีการนำเทคโนโลยีระดับโลกของต่างชาติมาประยุกต์ใช้ในไทย แต่ในอนาคตที่เรากำลังจะก้าวไป วิศวกรไทยถือว่าเข้ามามีบทบาทในการช่วยพัฒนาและต่อยอดเทคโนโลยีอวกาศเพื่อประยุกต์ใช้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก

การรับเทคโนโลยีจากตะวันตกไม่ใช่ข้อเสียเลยทีเดียว แต่ยังมีข้อดีอยู่ด้วย คือ เทคโนโลยีจากตะวันตกไม่ได้เป็นเทคโนโลยีพร้อมใช้ การรับมายังไงก็ต้องดัดแปลงการใช้งานให้เหมาะสมกับภูมิภาคนั้นๆ ซึ่งถือเป็นการช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับบริษัทและนักวิจัยไทย เช่น การประยุกต์ใช้ภาพถ่ายดาวเทียมในการแก้ปัญหาทางการเกษตร เพราะแต่ละประเทศมีลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่ต่างกัน ทีมงานเราต้องดัดแปลงโดยอาศัยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ใช้ Data analytic เพื่อวิเคราะห์การใช้งานให้เหมาะกับประเทศ

เมื่อถามว่า หากประเทศไทยลงทุนในเรื่องธุรกิจอวกาศมากขึ้น จะมีส่วนในการผลักดันเศรษฐกิจไทยหรือไม่? นายปฐมภพ กล่าวว่า “เศรษฐกิจอวกาศ” ถือเป็นสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นบนโลกและยังไม่มีใครครอบครอง ข้อดีคือ ไม่มีใครได้เปรียบ-เสียเปรียบไปมากกว่ากัน ประเทศไทยจะไม่เสียเปรียบต่างชาติเพราะเราเริ่มพร้อมกัน นอกจากนี้สำหรับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศเข้ากับโมเดลเศรษฐกิจ ทุกวันนี้หลายฝ่ายยังอยู่ในระหว่างการคิดค้น หาแนวทาง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์มากที่สุด แต่แน่นอนว่าด้วยความที่เป็นเรื่องใหม่และเพิ่งเกิดขึ้น จึงยังไม่มีคำตอบที่ถูกผิดอย่างชัดเจน จุดนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีและจังหวะที่ดีของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อคนรุ่นใหม่ที่หันมาสนใจเทคโนโลยีด้านนี้มากขึ้น

ข่าวล่าสุด

ป.ป.ส. ผนึก DEA สหรัฐฯ เตรียมจัดประชุม Regional IDEC 2026 ที่เชียงราย