posttoday

คมนาคมดันขนส่งสาธารณะ ย้ำอีก 10 ปี เดินแค่ 500 เมตร จากบ้านจ่อหน้ารถไฟฟ้า

26 กรกฎาคม 2566

กระทรวงคมนาคมผลักดันโครงการพัฒนาขนส่งสาธารณะต่อเนื่อง เน้นราคาสมเหตุสมผล พร้อมย้ำอีก 10 ปี เดินเพียง 500 เมตรจากบ้านถึงสถานีรถไฟฟ้า

ภายในงานานสัมมนา Property Insight : โจทย์ใหญ่ฟื้นอสังหาริมทรัพย์ที่จัดโดย ฐานเศรษฐกิจ เครือเนชั่น นายชยธรรม์ พรหมศร  ปลัดกระทรวงคมนาคม ได้ฉายภาพการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยว่า

ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม เป็นอีกหนึ่งนโยบายที่จะเข้ามาส่งเสริมให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ให้สามารถเดินหน้าต่อไป อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้ภาคการท่องเที่ยว ภาคอุตสาหกรรม การเดินทางของประชาชนเกิดความสะดวกในการใช้ "ขนส่งสาธารณะ" ลดความแออัดของพื้นที่ชั้นในได้อย่างดี

สำหรับแนวทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบคมนาคมของประเทศ ในมุมมองของนายชยธรรม์นั้น ระบุว่า  ที่ผ่านมารัฐบาลมีการวางโครงสร้างพื้นฐานที่ครอบคลุมการเดินทางของประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ดี และเป็นที่ต้องการของประชาชน

นั่นคือ การบริการระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ที่ระบบขนส่งสาธารณะมีความสะดวก ปลอดภัย ราคาสมเหตุสมผล เพราะหากสามารถทำได้จะเป็นการลดอัตราการนำรถยนต์ส่วนตัวออกมาใช้ รวมทั้งเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยว และภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะด้านการขนส่งโลจิสติกส์

นายชยธรรม์ ยังกล่าวถึงแนวทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบคมนาคมของประเทศเพิ่มเติมอีกว่า  อย่างไรก็ตามปัจจุบันต้องยอมรับว่า ประเทศไทยยังมีปัญหาด้านคมนาคมที่จะต้องเร่งดำเนินการอยู่หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการจราจร ปัญหาระบบขนส่งระบบรางที่มีราคาสูง และยังไม่ตอบโจทย์ระบบการขนส่งโลจิสติกส์  ระบบขนส่งสาธารณะที่ไม่สะดวก  ระบบเชื่อมต่อของขนส่งมวลชน  ส่งผลให้คนต้องเอารถยนต์ส่วนตัวออกมาใช้งานทำให้เกิดปัญหาการจรารติดขัด มลภาวะด้านสิ่งแวดล้อม  อุบัติเหตุ  ต้นทุนการขนส่งที่ราคาแพงขึ้น

แต่หากระบบการขนส่งสาธารณะสามารถลดระยะเวลาการเดินทางให้ประชาชนลงได้  รวมไปถึงมีระบบขนส่งเพื่อการเชื่อมต่อการเดินทางที่ดีและครอบคลุม จะช่วยให้การเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะมีความคล่องตัวและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ดังนั้นที่ผ่านมากระทรวงคมนาคม จึงได้มีการศึกษาโครงสร้างพื้นฐานด้านดารคมนาคมให้มีความครอบคลุมในทุกๆ มิติ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชน การพัฒนาเพื่อรองรับภาคอุตสาหกรรม และการพัฒนาเมือง

สำหรับที่ผ่านมาได้มีการศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาข้างต้นให้เกิดความยั่งยืน 3 ด้านได้แก่  1.การพัฒนาระบบขนส่งให้มีประสิทธิภาพ  2.การพัฒนาระบบขนส่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 3.การดึงให้คนทุกระดับเข้าถึงระบบบริการขนส่งสาธารณะ ด้วยการเปลี่ยนเป้าหมาย ลดระยะเวลาในการเดินทางให้เหลือไม่เกิน 1 ชั่วโมง

ดังนั้นการพัฒนาโครงข่ายระบบราง ถนน ขนส่งทางน้ำ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดำเนินการให้ต่อเนื่อง มีความเชื่อมต่อกัน  ภายใต้แนวคิดการทำให้ทุกคนเข้าถึงสถานี และจุดตัดให้ได้ง่ายที่สุด รวดเร็วที่สุด ลดระยะเวลาในการเดินทาง ลดความแออัดของที่อยู่อาศัยที่กระจุกตัวเฉพาะในตัวเมือง ด้วยการพัฒนาระบบ Feeder ใหม่ ผ่านการใช้ขนส่งระบบราง รถเมล์พลังงานสะอาด เพื่อให้ประชาชนเลือกใช้ระบบ Feeder เพื่อเดินทางเข้ามาสู่ระบบการขนส่งหลักได้

นอกจากนี้ ทางกระทรวงคมนาคมยังได้มีพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลตามโครงการรถไฟฟ้า ตามแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระยะที่ 1 หรือ M-MAP 1  ระยะทาง  554 กิโลเมตร 14 เส้นทาง ก่อสร้างเสร็จภายในปี 2575  หากดำเนินการเสร็จทั้งหมดประชาชนจะเดินจากที่พักอาศัยมายังสถานีรถไฟฟ้าเพียงแค่ 500 เมตรเท่านั้น

แต่เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ระบบขนส่งสาธารณะให้ไวมากขึ้น กระทรวงคมนาคมยังมีเป้าหมายเร่งด่วนที่ดำเนินการให้เสร็จเกินครึ่งหนึ่งของระยะทางทั้งหมดในปี 2572 ซึ่งปัจจุบันมีการเปิดใช้ไปแล้วระยะทางกว่า  241 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลตามแนวตะวันออก ตะวันตก แนวเหนือ-ใต้  รวมไปถึงการพัฒนาระบบ Feeder  ซึ่งในอนาคตรถเมล์จะวิ่งในระยะทางที่สั้นลง รวมทั้งการขนส่งทางน้ำจะสะดวก มีจุดเชื่อมต่อกับระบบขนส่งที่ครอบคลุมมากบยิ่งขึ้น

นอกจากนี้กระทรวงคมนาคมยังอยู่ระหว่างการดำเนินการพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (พื้นที่ต่อเนื่อง) ระยะที่ 2  หรือ M-MAP 2 ซึ่งเป็นการศึกษารถไฟฟ้าสายหลักและรองฉบับใหม่ รวม 33 เส้นทาง

ทั้งการพัฒนาระบบขนส่งทางราง อาทิ โครงการรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน โครงการรถไฟความเร็วสูง ระบบโครงข่ายถนน ทางด่วน รวมถึงการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีรถไฟฟ้าหรือระบบขนส่งมวลชนหรือ TOD เพื่อการพัฒนาพื้นที่โครงข่ายโดยรอบสถานีรถไฟฟ้าให้เกิดประโยชน์ในการใช้สอยพื้นที่ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งขณะนี้กระทรวงคมนาคมได้ศึกษาร่วมกับ องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA)  ในการศึกษาและออกแบบ ที่มีความครอบคลุมทุกบริการ เชื่อมต่อระบบขนมวลชนระบบรางอื่น ๆ

ข่าวล่าสุด

ศาลชั้นต้น พิพากษาประหารชีวิต “เชษฐ์ปาดัง” เลขานายกปาดังเบซาร์