posttoday

ภาคประชาชนเรียกร้องความชัดเจนขายคาร์บอนเครดิต

17 กรกฎาคม 2566

งานสัมมนา “สมัชชาต้นไม้เพื่อแผ่นดินตามรอยพ่อ” ครั้งที่ 3 เผย คนไทยสนใจขายคาร์บอนเครดิตจากต้นไม้ แต่ยังไม่มีตลาด แนะภาครัฐมีนโยบายชัดเจน ส่งออกทั้งในและต่างประเทศ

นพ.อำพน จินดาวัฒนะ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ในฐานะประธานคณะทำงานโครงการสมัชชาต้นไม้เพื่อแผ่นดินตามรอยพ่อ แถลงสรุปข้อเสนอแนะต่อการปลูกต้นไม้/ปลูกป่าขายคาร์บอนเครดิตในประเทศไทย ว่า คณะกรรมาธิการได้จัดสมัชชาต้นไม้เพื่อแผ่นดินตามรอยพ่อครั้งที่ 3 เพื่อการเชื่อมโยงทุกภาคส่วนในสังคมเข้ามาขับเคลื่อนการปลูกต้นไม้ ปลูกป่า เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมให้กับประเทศและโลก สร้างมูลค่าเศรษฐกิจและสังคม ดำเนินตามรอยเบื้องพระยุคลบาทของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งได้ทรงสอนและชี้นำให้คนไทยเห็นความสำคัญของการปลูกป่า ปลูกต้นไม้ เพื่อแผ่นดิน

ภาคประชาชนเรียกร้องความชัดเจนขายคาร์บอนเครดิต

และวันนี้กรรมาธิการยังมอบรางวัลเชิดชูเกียรติครูการปลูกต้นไม้เพื่อแผ่นดินตามรอยพ่อ อีก 9 รางวัล (2 ครั้งแรก มอบไป 11 รางวัล) ให้หน่วยงาน องค์กร หรือบุคคล ที่ทำเรื่องการปลูกต้นไม้ ทั้งในที่ของตัวเอง หรือที่สาธารณะอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้กำลังใจผู้ที่ดำเนินการ

รวมถึงยังมีการพูดถึงประเด็นปลูกป่าเพื่อการขายคาร์บอนเครดิตโดยเฉพาะ โดยเชิญหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องมาพูดคุย สรุปคือการปลูกต้นไม้ขายคาร์บอนเครดิตในประเทศไทย มีความพยายามในส่วนของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นกรมป่าไม้ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ก็มีการพัฒนาระบบการประเมินคาร์บอนเครดิตขึ้นมา

แต่ยังเป็นเรื่องยาก เพราะตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิตส่วนใหญ่จะอยู่ที่ต่างประเทศ โดยมีข้อกำหนดให้ห้างร้านที่ปล่อยคาร์บอนเครดิต ลดการปล่อยลง หรือไม่ก็ไปซื้อคาร์บอนเครดิตจากที่อื่นมาชดเชย ส่วนมามีในตลาดต่างประเทศ ขณะที่ประเทศไทยการปลูกต้นไม้ นอกจากจะได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นด้านเศรษฐกิจ สังคม แล้ว ก็ยังมาจากการขายคาร์บอนเครดิต แต่ยังพัฒนาตลาดไปไม่ได้ดีนัก การวัดการประเมินต้นไม้ที่จะให้คาร์บอนเครดิตต่างๆ และวิธีการยังค่อนข้างยุ่งยาก แต่ก็พบว่ามีเอกชนบางส่วนพยายามเปิดตลาดเอง พัฒนาระบบการประเมินคาร์บอนเครดิตจากต้นไม้และส่งขายได้บ้างแล้วกับประเทศตะวันออกกลาง โดยมีธนาคารในอียูเป็นตัวเชื่อม

ภาคประชาชนเรียกร้องความชัดเจนขายคาร์บอนเครดิต

นพ.อำพล กล่าวต่อว่า ที่ประชุมเห็นพ้องต้องกันว่า เรายังมีศักยภาพมากในการขายคาร์บอนเครดิตจากการปลูกต้นไม้ แต่ยังไม่เต็มที่ ทั้งที่ประชาชนอยากทำอยากขายมากมาย อย่างป่าชุมชนก็มีกฎหมายรองรับมี 10,000 ไร่ ก็ยังสามารถขายคาร์บอนเครดิตได้อีกมาก โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ แต่พบว่าระบบประเมินที่มีอยู่ในปัจจุบันยังไม่สมบูรณ์ และไม่มีการส่งเสริมตลาดต่างประเทศที่เป็นระบบและจริงจัง 

“ประเทศไทยยังไม่มีวิสัยทัศน์ ยังไม่มีเจตนารมณ์ทางการเมืองที่ชัดเจนกับเรื่องนี้ ก็มีการเรียกร้องว่าประเทศควรมีการกำหนดวิสัยทัศน์ในการปลูกต้นไม้เพื่อขายคาร์บอนเครดิต รัฐบาลควรมีนโยบายชัดเจน และควรมีองค์กรหรือหน่วยงานกลางในการผลักดันการประเมินมูลค่าคาร์บอนเครดิตกับต้นไม้ พัฒนาอาชีพการประเมินคาร์บอนเครดิตจากต้นไม้ และควรส่งเสริมการตลาดทั้งในและต่างประเทศ”

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้คณะกรรมาธิการฯ จะนำเสนอข้อมูลดังกล่าวต่อรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต่อไป

ภาคประชาชนเรียกร้องความชัดเจนขายคาร์บอนเครดิต