'ประวิตร' สั่งรับมือฝนทิ้งช่วง 'เอลนีโญ'กระทบหลายจังหวัดประสบภัยแล้ง
'ประวิตร' สั่งเตรียมรับมือฝนทิ้งช่วง มีแน้วโน้น "เอลนีโญ"ส่งผลหลายจังหวัดประสบภัยแล้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด พร้อมสร้างการรับรู้ให้กับเครือข่ายภาคประชาชน
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
ก่อนการประชุม พล.อ.ประวิตร ได้มีข้อห่วงใย ถึงการคาดการณ์ของประเทศไทย ที่กำลังจะเข้าสู่ปรากฏการณ์ "เอลนีโญ" ห้วง มิ.ย. 66 - ก.พ. 67 ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้อุณหภูมิความร้อนเฉลี่ยสูงขึ้นและหลายจังหวัดอาจประสบปัญหาภัยแล้ง กระทบต่อปริมาณน้ำอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร โดยคาดว่าปีนี้ปริมาณฝนจะน้อยกว่าปกติ ถึงร้อยละ 5 และมีโอกาสเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง ระหว่าง มิ.ย.- ก.ค. 66
จากนั้น ที่ประชุมได้รับทราบการดำเนินงานช่วงสิ้นสุดฤดูแล้ง ปี65/66 ตามปฏิทินการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ โดย สทนช.จะทำการประเมินผล และสรุปบทเรียน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและทุกภาคส่วน (7กระทรวง 32หน่วยงาน) เพื่อสรุปผลการดำเนินงาน ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอนำไปปรับปรุงมาตรการ รวมทั้งกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปี66/67 ต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาเห็นชอบ ความก้าวหน้า และปัญหาอุปสรรคของการดำเนินงานตามมาตรการรับมือฤดูฝน ปี66 และการเตรียมการรับมือฝนทิ้งช่วง ปี66 โดยมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ และภาวะฝนทิ้งช่วงอย่างใกล้ชิด พร้อมสร้างการรับรู้ให้กับเครือข่ายภาคประชาชน และดำเนินการตาม12มาตรการรับมือฤดูฝน ปี66 และ10มาตรการรับมือฤดูแล้ง ปี65/66 อย่างเคร่งครัด เพื่อรองรับสถานการณ์"เอลนีโญ" ที่คาดการณ์ไว้ พร้อมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดการดำเนินการจ่ายค่าชดเชย ความเสียหายแก่ประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากการใช้พื้นที่ลุ่มต่ำเป็นพื้นที่รับน้ำนองที่ผ่านมาด้วย
พล.อ.ประวิตร ขอบคุณ สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันบูรณาการทำงานเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล ด้วยดีที่ผ่านมา จากนั้นได้กำชับให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมรับมือฝนทิ้งช่วงปี66 และซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ โดยเฉพาะการกักเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง อย่างจริงจัง รวมทั้งให้หน่วยงานหลัก ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ ต่อเนื่องเพื่อให้ประชาชน มีความเข้าใจ และรับทราบสถานการณ์อย่างทั่วถึง ทันเวลา


