หุ้นไทยร่วงตามตลาดภูมิภาคปิดภาคเช้าลดลง 8 จุด

หุ้นไทย16พ.ค.เคลื่อนไหวในแดนลบ ก่อนปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,758.85 จุด ลดลง 8.01 จุด มูลค่าการซื้อขาย 33,875.50 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 16 พ.ค.ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้าก่อนปิดที่ระดับ 1,758.85 จุด ลดลง 8.01 จุด หรือ 0.45% มูลค่าการซื้อขาย 33,875.50 ล้านบาท โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,761.06 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,751.76 จุด

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะติดลบ โดยเฉพาะ Emerging Market เนื่องจากมีความกังวลอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตร (Bond Yield) อายุ 10 ปี ของสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นไป ทำให้วิตกการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมถึงกระแสเงินทุนไหลออก

ส่วนปัจจัยในประเทศก็เกิด Sell on fact หลังจากที่บจ.ได้มีการประกาศผลประกอบการออกมาแล้ว อย่างไรก็ดี มองเป็นการ Take profit ในช่วงสั้น เพื่อรอปัจจัยใหม่เข้ามา ขณะเดียวกันยังต้องติดตามดูปัจจัยการเมืองด้วย โดยในวันที่ 23 พ.ค.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติผลการตีความร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งวุฒิสภา (ส.ว.) และในวันจันทร์หน้าให้รอดูตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทยงวดไตรมาส 1/61 ซึ่งตลาดฯคาดว่าจะโต 4%

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายธนเดช กล่าวว่า ตลาดฯคงจะติดลบทั้งวัน แต่ก็ให้รอดูการประชุมกนง.ในวันนี้ ซึ่งตลาดฯคาดว่าจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย พร้อมให้นแนวรับ 1,750 จุด ส่วนแนวต้าน 1,775 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

SAWAD มูลค่าการซื้อขาย 3,046.25 ล้านบาท ปิดที่ 37.50 บาท ลดลง 6.25 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,465.27 ล้านบาท ปิดที่ 83.75 บาท ลดลง 1.50 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,461.28 ล้านบาท ปิดที่ 56.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

JASIF มูลค่าการซื้อขาย 1,240.31 ล้านบาท ปิดที่ 10.70 บาท ลดลง 0.60 บาท

BEAUTY มูลค่าการซื้อขาย 1,067.72 ล้านบาท ปิดที่ 19.90 บาท ลดลง 0.90 บาท