posttoday

ตลท.ไล่จับมือทุบAH-FPI

12 พฤศจิกายน 2555

ไอ้โม่งไล่ทุบหุ้นชิ้นส่วนยานยนต์ กดหุ้นทรุดหนัก AH ดิ่ง 16% ตลาดขึ้นป้ายเตือนร่วงผิดปกติ ควานหาสาเหตุ

ไอ้โม่งไล่ทุบหุ้นชิ้นส่วนยานยนต์ กดหุ้นทรุดหนัก AH ดิ่ง 16% ตลาดขึ้นป้ายเตือนร่วงผิดปกติ ควานหาสาเหตุ

เมื่อวันศุกร์ที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นติดลบเพียง 2.87 จุด ปิดที่ระดับ 1,290.83 จุด แต่หุ้นในหมวดยานยนต์กลับทรุดลงหนักผิดปกติในช่วงท้ายตลาด นำโดยบริษัท อาปิโก ไฮเทค (AH) ดิ่งแรงถึง 16.44% หรือ 3.60 บาท ปิดที่ 18.30 บาท ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นกว่า 244 ล้านบาท

บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ (FPI) ราคาร่วงลง 11.20% หรือ 1.40 บาท ปิดที่ 11.10 บาท มูลค่าซื้อขาย 528 ล้านบาท และบริษัท ที.เอ็ม.ซี. อุตสาหกรรม (TMC) ลดลง 4.32% หรือ 0.40 บาท ปิดที่ 8.85 บาท

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยขึ้นเครื่องหมาย (Trading Alert) เตือนนักลงทุนระมัดระวังการลงทุนหุ้น AH เนื่องจากระดับราคาและปริมาณการซื้อขายเปลี่ยนแปลงไปมาก

นายสุภกิจ จิระประดิษฐกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานตรวจสอบ ตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์จะส่งสัญญาณเตือน (Trading Alert) เมื่อราคาหุ้นแกว่งขึ้นและลงกว่าที่ผ่านมา จะให้บริษัทนั้นชี้แจง ประกอบการพิจารณาของนักลงทุน และตลาดหลักทรัพย์จะเข้าไปตรวจสอบความผิดปกติทั้งหุ้นขึ้นและลง ซึ่งในขั้นตอนนี้ของหุ้น AH ก็จะต้องเข้าไปตรวจสอบเช่นกันถึงราคาหุ้นที่แกว่งขึ้นลง และปรับตัวลงหนักท้ายตลาด

“เกณฑ์การขึ้น Trading Alert จะอยู่ตรงกลางหุ้นที่แกว่งขึ้นลง จากนั้นจะเข้าไปตรวจสอบดูทั้งหุ้นที่ขึ้นและลงผิดปกติ” นายสุภกิจ กล่าว

ด้านบริษัท AH ชี้แจงตลาดว่า ไม่มีสาเหตุและพัฒนาการใดๆ ที่ยังไม่ได้ชี้แจงและมีผลกระทบต่อราคาหุ้น ซึ่งสอดคล้องกับการให้สัมภาษณ์ของนายซูชวนเย็บ ประธานกรรมการและประธานกรรมการ บริหาร AH ว่า ไม่ทราบเหตุผลที่หุ้นถูกทุบลงมา 16% เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และอุตสาหกรรมยานยนต์ก็ยังเติบโตได้ดีและน่าจะดีที่สุด ซึ่ง AH ก็น่าจะได้รับผลดีตามแนวโน้มอุตสาหกรรม

“ผมยืนยันว่าไม่ได้ขายหุ้นออกมาเลย” นายเย็บ กล่าว

ด้านนายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร FPI กล่าวว่า หุ้นที่ตกลงแรง ก็มีหลายคนติดต่อเข้ามาสอบถามหาเหตุผล ซึ่งเข้าใจว่าอาจจะเป็นการขายหุ้นเพื่อทำกำไรเมื่อประกาศผลกำไรไตรมาส 3 ออกมาดี (Sale On Fact) แต่เพิ่งจะรู้ว่านอกจากหุ้น FPI แล้วยังมีหุ้นในกลุ่มยานยนต์อีกหลายตัวที่ปรับตัวลงแรงผิดปกติ

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา FPI แจ้งตลาดว่า ในไตรมาส 3 ปีนี้ มีกำไรสุทธิ 58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 123% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนกำไรสุทธิ 26 ล้านบาท และรวม 9 เดือนปีนี้มีกำไรสุทธิ 121 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 89%

นอกจากนี้ คณะกรรมการมีมติจ่ายปันผลระหว่างกาลปีนี้ในอัตราหุ้นละ 0.12 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีชื่อในทะเบียนวันที่ 26 พ.ย.นี้ กำหนดจ่ายเงินในวันที่ 6 ธ.ค.นี้

ประธานกรรมการบริหาร กล่าวว่า แนวโน้มผลดำเนินงานในปีหน้าจะยิ่งดีกว่าปีนี้ นอกจากจะโตตามอุตสาหกรรมรถยนต์แล้ว บริษัทยังได้งานใหม่ และธุรกิจที่ลงทุนไปก็ไปได้ดี เช่น แม่พิมพ์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จะออกมามากขึ้นในปีหน้า และยอดขายจากผลิตภัณฑ์ที่พ่นสี เช่น กันชน ก็เป็นที่ต้องการมาก โดยเฉพาะในประเทศที่มีค่าแรงสูง อย่างดูไบและลิเบีย ซึ่งเป็นสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงด้วย