กสิกรดันสินเชื่อบ้านแตะ6.4หมื่นล.

กสิกรไทยมั่นใจสินเชื่อบ้านโต 6-8% แม้ครึ่งแรกหลุดเป้าและถูกคุม LTV รุกบริการดิจิทัลจริงจัง

นายอลงกต บุญมาสุข ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายบริหารพันธมิตรและส่งเสริม การตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า การปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในครึ่งปีแรกเติบโตกว่าเป้าหมายเล็กน้อย คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะไปได้ดี เพราะเป็นฤดูกาลที่สินเชื่อบ้านขยายตัวสูง และปลายปีมีการจัดมหกรรมกระตุ้นสินเชื่อได้อีกทางหนึ่ง จึงมั่นใจว่า ทั้งปีสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 6.4 หมื่นล้านบาท ทำให้ยอดคงค้างสินเชื่อบ้านในปี 2561 เติบโต 6-8% ตามแผนที่ตั้งไว้

ทั้งนี้ ความกังวลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เรื่องการปล่อยสินเชื่อบ้านให้วงเงินต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) สูงเกินกำหนด เชื่อว่าไม่กระทบกับการปล่อยสินเชื่อ เพราะทุกธนาคารมีความระมัดระวังอยู่แล้ว แต่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาให้ลูกค้าแต่ละรายด้วย หากเป็นลูกค้าเก่า มีบัญชีเงินเดือน เป็นไปได้ที่จะได้วงเงินสินเชื่อสูง
 
ด้านธนาคารกสิกรไทยปล่อยสินเชื่อตามเกณฑ์ โดยแนวราบให้ LTV สูงสุด 95% ส่วนแนวสูงไม่เกิน 90% ขณะที่สมาคม สินเชื่อที่อยู่อาศัย มีการพูดคุยกันสม่ำเสมอเรื่องการปล่อยสินเชื่อภายใต้การบริหารความเสี่ยงที่ดีเน้นคุณภาพเพราะสุดท้ายมีผลกับการตั้งสำรองหนี้เสีย การนำเสนอสินเชื่อและวงเงินเป็นไปตาม หลักเกณฑ์มาร์เก็ตคอนดักต์

สำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของสินเชื่อบ้านครึ่งปีแรกไม่ถึง 4% สอดคล้องกับภาพรวมทั้งระบบ ซึ่งเอ็นพีแอลนิ่งสะท้อนว่าผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว เมื่อเทียบกับช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ที่ลูกค้าไหลเป็นเอ็นพีแอลเร็ว ส่วนลูกค้ากู้ต่ำกว่า 2 ล้านบาท ที่ ธปท.เป็นห่วงหนี้เสียนั้น มองว่าระบบคัดกรองสินเชื่อทำหน้าที่อยู่แล้ว ซึ่งกลุ่มดังกล่าวมีเสี่ยงมากกว่า อัตราการอนุมัติจึงต่ำกว่าตลาดบน ปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยมีอัตราอนุมัติเฉลี่ย 65-70%

"ธนาคารกำลังพัฒนาช่องทางให้บริการลูกค้าสินเชื่อบ้านผ่านออนไลน์ เร็วๆ นี้จะเปิดให้สมัครสินเชื่อบ้าน รวมทั้งทำโปรโมชั่นผ่านแอพพลิเคชั่น เค พลัส ได้ด้วย" นายอลงกต กล่าว

นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารจับมือกับธนาคารดีบีเอส สิงคโปร์ (DBS Bank) ให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศสำหรับลูกค้ารายย่อย จากต้นทางสิงคโปร์แบบเรียลไทม์หรือผ่านกสิกรไทยไปเข้าบัญชีผู้รับเงินที่ธนาคารต่างๆ ในประเทศไทยได้ 21 ธนาคาร

ขณะเดียวกัน เดือน ต.ค.นี้ เตรียมเปิด บริการโอนเงินไปต่างประเทศด้วยแอพพลิเคชั่น K PLUS ไปยังผู้รับเงินปลายทางกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ตั้งเป้าหมายมูลค่าการโอนเงินระหว่างประเทศทั้งเข้าและออก  5 แสนล้านบาท/ปี และเพิ่มมากกว่า 3 เท่าภายในปี 2563