posttoday

ปิดฉากชีวิตขุนคลัง 3 สมัย"สุธี สิงห์เสน่ห์"

04 สิงหาคม 2556

ดร.สุธี เป็นตัวอย่างของ รมว.คลังที่มีความสามารถสูง และซื่อสัตย์ สุจริต ไม่พูดมาก ชอบอยู่เบื้องหลัง

ดร.สุธี เป็นตัวอย่างของ รมว.คลังที่มีความสามารถสูง และซื่อสัตย์ สุจริต ไม่พูดมาก ชอบอยู่เบื้องหลัง

เมื่อค่ำวันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา ศ.ดร.สุธี สิงห์เสน่ห์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ถึงแก่อนิจกรรมด้วยโรคชรา ในวัย 85 ปี โดยครอบครัวได้จัดพิธีมิสซาศพ ณ วัดมหาไถ่ ณ ซอยร่วมฤดี กรุงเทพมหานคร และจะทำพิธีฝังที่สุสานสันติธรรม อ.สามพราน จ.นครปฐม

ศ.ดร.สุธี นับเป็นรมว.คลัง ที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของประวัติศาสตร์เศรษฐกิจไทย จากผลงานที่โดดเด่นคือ การวางรากฐานของระบบการคลังของประเทศ ให้มีวินัยและมั่นคงอย่างในปัจจุบัน

ท่านเปรียบเสมือนมือขวาของ นายสมหมาย ฮุนตระกูล ขุนคลังผู้เป็นตำนาน โดยดำรงตำแหน่งเป็น รมช.คลัง 2 สมัย ในรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เมื่อปี 2525 และ 2526 และได้รับการโปรดเกล้าฯ เป็น รมว.คลัง 3 สมัย ในรัฐบาลพล.อ.เปรม ปี 2529 และ ในรัฐบาลนายอานันท์ ปัณยารชุณ 2 ครั้ง ในปี 2534 และ 2535

เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญในช่วงที่ท่านได้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคือการประกาศลดค่าเงินบาทครั้งแรก ในปี 2525 จากการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนไว้ที่ 21 บาทต่อเหรียญสหรัฐ เป็น 23 บาทต่อเหรียญสหรัฐ เนื่องจากประเทศประสบปัญหาการขาดดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดสูง จากวิกฤตน้ำมันโลก

ต่อมา ในปี 2527 รัฐบาลก็ประกาศลดค่าเงินบาทเป็นครั้งที่สอง จาก 23 บาทต่อเหรียญสหรัฐ เป็น 27 บาทต่อเหรียญสหรัฐ

ทนง พิทยะ อดีต รมว.คลัง เล่าว่า สมัยนายกเปรม ท่านสุธี ประกาศลดค่าเงินเปลี่ยนจาก 23 บาทต่อเหรียญสหรัฐ เป็น 27 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ตอนนั้นท่านต้องหนีไปอยู่ญี่ปุ่นตั้งเดือนหนึ่ง เพราะมีเหตุการณ์ทหารตบเท้า และมีนักธุรกิจกลุ่มหนึ่งไม่เห็นด้วย ผมจำเหตุการณ์นั้นได้

ในช่วงปี 2522-2528 ประเทศไทยประสบวิกฤตเศรษฐกิจ อันเป็นผลกระทบต่อเนื่องจากวิกฤตการณ์น้ำมัน การส่งออกติดลบเป็นครั้งแรก เศรษฐกิจสหรัฐถดถอย การค้าระหว่างประเทศตกต่ำ เงินทุนสำรองของประเทศเหลือน้อยลงทุกที อันเป็นผลมาจากการใช้นโยบายตรึงราคาน้ำมันของรัฐบาล

จนในที่สุดรัฐบาลในสมัยนั้น ต้องใช้นโยบายให้ทุกบ้านปิดไฟเร็วขึ้น เพื่อช่วยกันประหยัดพลังงาน และตั้งคณะทำงานแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งศ.ดร.สุธีมีบทบาทสูงมากในการร่วมกำหนดนโยบาย ในช่วงนั้นมีการออกนโยบายกินของไทยใช้ของไทยร่วมใจส่งออก เป็นที่มาของคำว่า Made in Thailand และเป็นจุดเริ่มต้นโครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก หรือ Eastern Seaboard ให้เป็นเขตการพัฒนาอุตสาหกรรมหนัก และแหล่งเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของประเทศ

หลังจากผ่านวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนั้น ศ.ดร.สุธีก็เริ่มปฎิรูปนโยบายการคลัง อย่างจริงจัง โดยหันมาเข้มงวดกับวินัยการคลังอย่างเคร่งครัด มีการริเริ่มให้สถาบันจัดอันดับเครดิตระดับโลกอย่าง มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส และ แสตนดาร์ด แอนด์พัวร์ เข้ามาจัดอันดับเครดิตประเทศไทย เพราะประเทศไทยจะออกพันธบัตรขายในต่างประเทศ มีแนวคิดที่จะให้ตั้งสถาบันประกันเงินฝาก นำเอาระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ในการซื้อขายหลักทรัพย์ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ในช่วงที่ ศ.ดร.สุธี เป็นรมว.คลัง ในสมัยรัฐบาลนายอานันท์ ก็มีบทบาทสูงในการปฎิรูประบบภาษี โดยเฉพาะภาษีนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วน ทำให้ราคารถยนต์ถูกลงจนคนที่มีรายได้ปานกลางหาซื้อได้ และเป็นกำลังสำคัญที่ทำให้เกิดข้อตกลงที่นำไปสู่การประกาศเป็นประชาคมอาเซียน (ASEAN Economic Community) และการเจรจาการค้ารอบอุรุกวัย (แกตต์) ที่ปัจจุบันได้พัฒนาขึ้นมาเป็นข้อตกลงการค้าโลก (WTO)

สมพล เกียรติไพบูลย์ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ดร.สุธี เป็นตัวอย่างของ รมว.คลังที่มีความสามารถสูง และซื่อสัตย์ สุจริต ไม่พูดมาก ชอบอยู่เบื้องหลัง มีอารมณ์ขันเข้ากับข้าราชการและนักการเมืองได้ดี จนได้รับฉายา “หินกลิ้ง”

“ท่านมีความพิเศษในเรื่องการอ่านใจคน เคยนั่งคุยกับผม ท่านบอกว่าคนนี้เขากำลังคิดอย่างนี้อย่างนั้น และก็จริงอย่างที่ท่านพูด น่าทึ่งมาก ขอย้ำเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ที่ท่านมีสูงมากซึ่งหาได้ยากแล้วในสมัยนี้”