posttoday

โค้งสุดท้าย ช็อปช่วยชาติ อย่าพลาดดูแลเงินในกระเป๋าตัวเองด้วยนะจ๊ะ

20 ธันวาคม 2561

กลับมากันอีกแล้วครับผม กับโค้งสุดท้ายลดหย่อนภาษี ที่ทางภาครัฐออกแคมเปญมาให้เราได้ใช้เงินในกระเป๋ากันในช่วงนี้อีกแล้วครับผม

เรื่อง...TaxBugnoms

กลับมากันอีกแล้วครับผม กับโค้งสุดท้ายลดหย่อนภาษี ที่ทางภาครัฐออกแคมเปญมาให้เราได้ใช้เงินในกระเป๋ากันในช่วงนี้อีกแล้วครับผม กับมาตรการช็อปช่วยชาติลดหย่อนภาษี ที่บอกว่างานนี้มี 3 สินค้าเด็ดให้เราเลือกซื้อหากันตามอัธยาศัย โดยมีหลักการสำคัญดังนี้ครับ

1.สิทธิการลดหย่อนภาษีช็อปช่วยชาติปีนี้ มีถึง 2 ปีภาษีด้วยกัน โดยเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2561-16 ม.ค. 2562 ซึ่งเราสามารถใช้สิทธิลดหย่อน 2 รอบปีภาษี (2561-2562) จำนะครับว่า ซื้อปีไหนลดหย่อนปีนั้น แต่รวมกันแล้วทั้งสองปี ต้องไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท

2.สำหรับสินค้าทั้ง 3 ประเภทนั้น ประกอบด้วย ยางรถ หนังสือ และสินค้าโอท็อปโดยมีรายละเอียดดังนี้ครับ

  • ยางรถกี่ล้อก็ได้ รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ รถจักรยาน ได้หมด!! โดยต้องซื้อจาก ผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และมีหลักฐานการซื้อสินค้าเป็นใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป พร้อมคูปองที่มีตราประทับของร้านค้า (คูปอง 1 ใบ ต่อยาง 1 เส้น)
  • หนังสือ ซึ่งหมายความรวมถึงประเภทอีบุ๊กด้วย แต่ไม่รวมหนังสือพิมพ์ นิตยสาร โดยต้องซื้อจากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล และต้องมีหลักฐานที่ใช้คือใบเสร็จรับเงิน (กรณีไม่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม) หรือ ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป (กรณีจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม) เนื่องจากร้านหนังสือบางร้านมีการจด VAT เพื่อประกอบกิจการอื่นด้วย แต่โดยปกติแล้วหนังสือจะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่แล้วครับ
  • สินค้าโอท็อป ที่ลงทะเบียนกับกรมพัฒนาชุมชนอย่างถูกต้อง โดยธุรกิจโอท็อปกลุ่มนี้จะมีการจดทะเบียน VAT หรือไม่จด VAT ก็ได้ สามารถใช้ได้หมดเช่นเดียวกันกับหนังสือ ซึ่งหลักฐานที่ต้องใช้ คือใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีที่มีรายละเอียดครบถ้วนครับ

โค้งสุดท้าย ช็อปช่วยชาติ อย่าพลาดดูแลเงินในกระเป๋าตัวเองด้วยนะจ๊ะ

อันนี้คือเรื่องของเงื่อนไข ถ้าดูแล้วก็จะเห็นว่าปีนี้ค่อนข้างจำกัดเงื่อนไขในการลดหย่อนภาษีมากกว่าปีอื่นๆ แต่อย่างไรก็ดีทุกปีที่มีการออกนโยบายช็อปช่วยชาติเพื่อลดหย่อนภาษีออกมา ผมมักจะให้ตอบคำถามต่อไปนี้ก่อนที่จะตัดสินใจใช้สิทธิดีหรือไม่?

1.มีเงินไหม ถ้าไม่มีไม่ต้องซื้อสิ่งที่สำคัญลำดับแรกคือการบริหารจัดการเงินของเราครับ เพราะค่าลดหย่อนในกลุ่มนี้คือค่าลดหย่อนที่ต้องจ่ายออกไปเพื่อใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษี ดังนั้นต้องคิดให้ดีก่อนว่าเราจัดการการเงินตัวเองรอดหรือยัง ถ้าคำตอบคือไม่ ขอให้หยุดที่ตรงนี้ก่อนครับ

2.ต้องการของพวกนี้ไหม เพราะปีนี้เขาให้สินค้า 3 อย่าง คือ ยาง หนังสือ และสินค้าโอท็อปถ้าหากยางที่เราใช้ยังไม่ถึงอายุการเปลี่ยน การใช้ต่อย่อมประหยัดกว่า ถ้าหนังสือที่เรามีในบ้านยังไม่อ่าน ซื้อมากองเต็มบ้านเพิ่มย่อมไม่มีประโยชน์ และถ้าไม่ได้กินหรือใช้ของโอท็อปก็ไม่ต้องซื้อ เพราะคงไม่มีใครซื้อกล้วยตาก 1.5 หมื่นบาทแจกทั้งอำเภอ จริงไหมครับผม (อันนี้มุกนะครับ แฮ่)

จะเห็นว่าจริงๆ แล้วการตัดสินใจจ่ายไปเพื่อประหยัดภาษีนั้น เราต้องใช้เงินมากกว่าภาษีที่ประหยัดได้เสมอ ดังนั้นสิ่งที่เราต้องถามตัวเองคือ ความคุ้มค่าของเงินที่จ่ายไปว่าได้ของที่ต้องการหรือจำเป็น รวมถึงเกณฑ์ในการลดภาษีที่เราเสียอยู่ในปัจจุบันว่ามันสอดคล้องกันแค่ไหน ถ้าหากคำตอบทั้งสองข้อนี้คือไม่ การใช้สิทธิเหล่านี้อาจจะไม่ใช่เรื่องสำคัญต่อชีวิตเราครับ

ก่อนจะจากกันไป ออกตัวก่อนอีกทีในฐานะคนทำงานด้านภาษีว่า บทความในตอนนี้ไม่ได้ไม่สนับสนุนนโยบายรัฐ แต่อยากให้รู้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือสติสัมปชัญญะในการใช้เงินและจัดการภาษี เพราะเงินทุกบาทมีค่า และเราต้องประหยัดค่าใช้จ่ายในชีวิตไม่ใช่แค่ภาษี

ฝากเรื่องนี้ไว้ให้คิดกันเล่นๆ ก่อนปีใหม่ เผื่อเราจะได้เข้าใจการใช้จ่ายของตัวเองมากขึ้นครับผม :)