posttoday

หยุดเกมแห่งการรอคอย

18 มกราคม 2561

คนเราถ้า "ความรับผิดชอบทางการเงิน" ไม่มี ความพ้นทุกข์หรือความสำเร็จทางการเงินก็เป็นแค่ความฝัน

โดย...จักรพงษ์ เมษพันธ์ THE MONEY COACH

หลายครั้งที่ตอบคำถามคนเป็นหนี้แล้วให้รู้สึกหงุดหงิดหัวใจ เพราะมีจำนวนไม่น้อยที่ไม่คิดจะทำอะไรเลย แล้วก็หวังเอาว่าผมจะช่วยแก้ปัญหาให้ได้ และช่วยทำให้หนี้ของพวกเขาหมดและจบลงในระยะเวลาอันสั้น

เรียกว่าอยากได้เทคนิค “ทำน้อยได้มาก” ในช่วงเวลาอันแสนวิกฤต

คิดเอาง่ายๆ ว่า ถ้าคุณมีรายได้สัก 3 หมื่นบาท แล้วพาชีวิตไปจนมุม โดยมีรายจ่ายจากหนี้ (เงินผ่อนต่างๆ รวมกัน) 2.5 หมื่นบาท หักภาษี ประกันสังคม และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแล้วเหลือ 3,000 บาท/เดือน และไม่พอกิน

อยู่เฉยๆ ใช้ชีวิตไปวันๆ ไม่คิดทำอะไรเพิ่มเติม แล้วหนี้จะหมด ชีวิตจะดีขึ้นได้อย่างไร

หลักคิดการแก้ไขหนี้พื้นฐานอย่าง “ลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้” นั้น

เอาเข้าจริงต้องบอกว่า การลดรายจ่ายแทบจะไม่ช่วยอะไรเลย สำหรับคนที่มีหนี้ท่วมหัวท่วมตัว เพราะยังไม่ต้องลดรายจ่ายอะไร มันก็ไม่มีกินไปแล้ว

ดังนั้น การลดรายจ่ายที่ส่งผลกับหนี้และรายจ่ายจริงๆ หรือการลดรายจ่ายกับหนี้รายการใหญ่อย่างบ้านและรถยนต์ โดยการขายมันออกไปเท่านั้น หรือรีไฟแนนซ์บ้านที่มีอยู่เพื่อเอาเงินส่วนเกินไปปิดหนี้รายการอื่น ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ทำได้

แต่ถ้าเป็นวิธีการหรือเทคนิคทางการเงินอื่นๆ บอกเลยว่า “หนี้ไม่ขยับ” ครับ

แล้วต้องทำไง? โค้ชคิดให้หน่อยสิ

เมื่อลดค่าใช้จ่ายไม่มีผลกับคนที่จะจมน้ำ ก็เหลืออีกทางนั่นคือ “หารายได้เพิ่ม” น่ะสิ

เวลาใครถามผมว่าเป็นหนี้เยอะแก้ยังไงดี ผมมักจะตอบกวนๆ (แต่คิดอย่างที่พูด) ว่า “ก็หาเงินไปคืนเขาสิวะ”

คำตอบที่ได้กลับมาหลังแนะนำไป มักจะเป็นดังนี้

- ทำงาน 5 วัน (หรือ 6 วัน) ก็เหนื่อยจะแย่

- ไม่รู้จะทำอะไร คิดให้หน่อยครับโค้ช

- ไม่เก่งอะไรสักอย่าง จะทำอะไรได้ละคะหนู

- ฯลฯ

ฟังคำตอบปุ๊บ เลยให้สงสัยว่าตกลงมันเป็นปัญหาชีวิตเขาจริงหรือเปล่า? เพราะดูไม่พยายามอะไรเลย แม้แต่จะคิด แล้วก็หวังเอาว่าปลายสายปลายทางจะช่วยชีวิตเขาได้

บางคนที่น่ารักก็มี คิดไม่ออก ก็พยายามถามผมว่า ดูยังไงว่าพอทำอาชีพอะไรได้บ้าง แล้วก็เอาไปคิดต่อ (โลกมีงานสุจริตที่คนส่วนใหญ่ไม่อยากทำ แต่ได้เงินงามอีกมากมาย ลองคิดให้ดี!)

แต่ส่วนใหญ่ (ขอใช้คำว่า “ส่วนใหญ่”) จบการสนทนากันแค่ตรงนั้น ไม่มีอะไรต่อ เพราะดูแล้วเหมือนผมไม่ช่วย บ้างด่าพ่อด่าแม่ผมหลังไมค์มาก็มี

ถ้าเป็นหนี้แล้วไม่สู้ เอาแต่นั่งรอคนมาช่วย ทนเจ็บทนจนกับปัญหาแต่ละวันได้ ก็แสดงว่ายังจนไม่พอ ยังไหว ยังจนต่อได้

ก็จงเล่นเกมแห่งการรอคอยต่อไป รอว่าวันหนึ่งชีวิตจะดีขึ้น รอว่าอัศวินจะมีจริง และอาจรอไปได้ถึงว่าวันหนึ่งเงินจะหล่นลงมาเองจากฟ้า เพื่อให้เรานำไปปลดหนี้

คนเราถ้า “ความรับผิดชอบทางการเงิน” (Money Responsibility) ไม่มี ความพ้นทุกข์หรือความสำเร็จทางการเงินก็เป็นแค่ความฝันครับ

เริ่มง่ายๆ ด้วยการหยุดรอคอย เมื่อลดรายจ่ายไม่ได้ ก็ต้องหารายได้เพิ่ม ทำ ชน สู้ทุกทาง เพื่อให้ตัวเองและครอบครัวรอด

ก่อนจะอ้าปากตอบว่า “คิดไม่ออก” “ไม่รู้ทำอะไรดี” ลองสังเกตดูดีๆ ว่าตอบออกมาจาก “สมอง” ผ่านกระบวนการ “คิด” มาอย่างดี หรือตอบจาก “สันดาน” ขี้เกียจ งอมืองอเท้า อยากอยู่เฉยๆ แล้วปัญหาจะหายไปเอง

ถ้าวันนี้เก็บขยะขาย โกยขี้หมา ยังทำเงินได้ ทำไมเราจะคิดอาชีพไม่ออก

“ไม่มีใครทำให้จนได้หรอก ถ้าเราไม่ยอม” ...  ถามตัวเอง เจ็บและจนมาพอหรือยัง?

ถ้าพอแล้ว! คิดและสู้ อย่ามัวแต่รออัศวินม้าขาวที่ไม่มีตัวตนครับ