posttoday

เจนเนอราลี่อัดงบ100ล้าน

03 กรกฎาคม 2561

เจนเนอราลี่ฯ อัดงบลงทุนปี 2561 เฉียด 100 ล้าน ปรับระบบบริการลูกค้าสร้างแบรนด์

เจนเนอราลี่ฯ อัดงบลงทุนปี 2561 เฉียด 100 ล้าน ปรับระบบบริการลูกค้าสร้างแบรนด์

นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มเจนเนอราลี่ ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทจะใช้งบลงทุนปรับระบบการให้บริการหลังการขายประมาณ 60 ล้านบาท เพื่อรองรับฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมทั้งลูกค้าประกันชีวิตและประกัน วินาศภัยประมาณ 6 แสนราย ซึ่งระบบเดิมวางไว้รองรับลูกค้าประมา 1 แสนราย ซึ่งปัจจุบันมีการนำหุ่นยนต์ (Robot) ปัญญาประดิษฐ์ ( AI) ไลน์ เฟซบุ๊กเข้ามาช่วยให้บริการ รวมถึงแอพพลิเคชั่น ที่ให้บริการตั้งแต่การเสนอขายประกัน ไปถึงการชำระเงิน การออกใบเสร็จรับเงินชั่วคราวอิเล็กทรอนิกส์

ทั้งนี้ จะมีการปรับปรุงระบบคอลเซ็นเตอร์และเปิดสาขาที่ภาคใต้และภาคอีสานเพิ่มเพื่อให้บริการตัวแทนและ ลูกค้าที่มีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ

นอกจากนี้ จะใช้งบประมาณในการสร้างแบรนด์และโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ ประมาณ 30 ล้านบาท เช่น โฆษณากลางแจ้งประมาณ 1,000 จุดทั่วประเทศ และเผยแพร่ภาพยนตร์โฆษณาผ่านเพลงความยาว 4 นาที ซึ่งเป็นซีรี่ส์ที่ 3 ของการสร้างแบรนด์ ครั้งนี้คาดหวังว่าจะสามารถสร้างการรับรู้ในแบรนด์ได้ 100% สูงสุดเมื่อเทียบกับ 2 ซีรี่ส์ที่ผ่านมา

"ลูกค้าเราเติบโตรวดเร็วมากในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ต่อเนื่องถึงปีนี้ที่ลูกค้าใหม่โต 50% ถือว่าสูงและส่วนแบ่งตลาดลูกค้าใหม่มาอยู่อันดับ 11" นายบัณฑิต กล่าว

นายบัณฑิต กล่าวว่า ปีนี้คาดว่าบริษัทจะมีเบี้ยรับรวม 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งครึ่งหลังของปีจะมีการเติบโตมากกว่าครึ่งปีแรก แม้ว่าตลาดทุนตลาดเงินจะมีความผันผวนสูง สงครามการค้าเป็นความกังวลที่ยังคงอยู่ แต่จะไม่กระทบกับธุรกิจประกันชีวิต

ทั้งนี้ มั่นใจว่าบริษัทจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วต่อไปจากการที่มีการวิจัยความต้องการลูกค้าและสามารถออกสินค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย เช่น ยูนิตลิงค์ หรือประกันชีวิตควบการลงทุนที่ขายผ่านธนาคารเกียรตินาคิน 12 เดือนมีมูลค่าสินทรัพย์รวมประมาณ 3,000 ล้านบาท และ ประกันสุขภาพรายเดี่ยวของทั้งประกันชีวิต และประกันภัย มียอดขายเข้ามาเฉลี่ยเดือนละ 60 ล้านบาท

"ค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้คนกลัวมาก พอออกความคุ้มครองแบบเหมาจ่ายวงเงิน 2 ล้านบาท ถือว่าตอบโจทย์ลูกค้า ซึ่งประกันสุขภาพรายเดี่ยวนี้เป็นการเริ่มจากศูนย์เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เป็นการดัดแปลงจุดแข็งจากที่เรามีความเชี่ยวชาญประกันสุขภาพกลุ่มที่ทำมาตลอด 15 ปี และตลาดนี้เราโตกว่า คู่แข่ง" นายบัณฑิต กล่าว

นายบัณฑิต กล่าวว่า ปัจจุบันเบี้ยรับรวมของบริษัทมาจากช่องทางธนาคาร เกียรตินาคินภัทร 50% จากช่องทางตัวแทน 25% ที่เหลือมาจากประกันกลุ่มช่องทางขายตรง

สำหรับปีนี้ได้พันธมิตรใหม่เพิ่ม 2 ราย คือ ธนาคารทหารไทย  ขายประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล กรุงศรี ออโต้ ขายประกันสินเชื่อ