posttoday

SFLEX โชว์รายได้ปี 64 พุ่งแตะ1,727 ล้านบาท ทำนิวไฮ

28 กุมภาพันธ์ 2565

SFLEX โชว์รายได้ปี 64 พุ่งแตะ1,727 ล้านบาท ทำนิวไฮ ลั่นปี 65 รายได้โตทะยาน 1,800 ลบ. ทุบสถิติใหม่ต่อเนื่อง

ดร. สมโภชน์ วัลยะเสวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) (SFLEX) ผู้ผลิต และจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนชั้นนำในประเทศ เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2564 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 149.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิเท่ากับ 142.8 ล้านบาท

ขณะที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,727.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 312.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 22.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนเท่ากับ 1,415.0 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน (Flexible Packaging) จำนวน 1,677 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลงวดปี 2564 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.045 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 36.9 ล้านบาท โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฎ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 19 เมษายน 2565 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 6 พฤษภาคม 2565

“ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนทั้งในส่วนของรายได้และกำไร แม้ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปัญหาในเชิงซัพพลายของน้ำมันในตลาดโลก จนส่งผลทำให้ราคาวัตถุดิบมีความผันผวน และปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้เป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้ในปี 2565 บริษัทฯ มีนโยบายจัดหาวัตถุดิบด้วยต้นทุนคงที่ในระยะยาวเพิ่มขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงกับการผันผวนของราคาในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นเข้ามาเพื่อทดแทนวัตถุดิบที่มีราคาสูง ประกอบกับแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปีนี้ มั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนให้บริษัทฯ มีความสามารถในการสร้างอัตรากำไรได้อย่างที่คาดการณ์ไว้”

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SFLEX กล่าวอีกว่าในปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้โตแบบ Organic growth จากธุรกิจหลักเพิ่มขึ้นจากปีก่อนอยู่ที่ประมาณ 1,760 – 1,800 ล้านบาท จากการขยายกำลังการผลิตของโรงงานแห่งใหม่ โดยคาดว่าจะมีกำลังการผลิตจะค่อยๆเพิ่มขึ้นจนถึง 265 ล้านเมตรต่อปี จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิต 180 ล้านเมตรต่อปี พร้อมกันนี้ยังได้ขยายตลาดเชิงรุกไปยังผลิตภัณฑ์อาหาร (Food) และผลิตภัณท์ทางการแพทย์ (Medical) ให้มากยิ่งขึ้น ประกอบกับการมุ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพ เน้นงานกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ให้มาร์จิ้นสูง และช่วยผลักดันการเติบโตได้เพิ่มขึ้นในอนาคต เพื่อมุ่งสร้างความยั่งยืนของอัตรากำไรขั้นต้นให้มั่นคงในระยะยาว