หุ้น 24 ส.ค.ปิดบวก 2.58 จุด
หุ้นไทยผันผวนกรอบแคบ ก่อนปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,575.96 จุด เพิ่มขึ้น 2.58 จุด มูลค่าการซื้อขาย 37,566.40 ล้านบาท
หุ้นไทยผันผวนกรอบแคบ ก่อนปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,575.96 จุด เพิ่มขึ้น 2.58 จุด มูลค่าการซื้อขาย 37,566.40 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบแคบทั้งแดนบวกและแดนลบก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาในช่วงบ่ายจนมาปิดที่ 1,575.96 จุด เพิ่มขึ้น 2.58 จุด หรือ 0.16 % มูลค่าการซื้อขาย 37,566.40 ล้านบาท
นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บล.ซีแอลเอสเอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า นักลงทุนสถาบันในประเทศและต่างประเทศเชื่อว่าการตัดสินคดีจำนำข้าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วันที่ 25 ส.ค. ไม่กระทบกับตลาดหุ้นไทย เพราะยังมีโอกาสอุทธรณ์ได้ และรัฐบาลมีการดูแลความปลอดภัย และจากการเปิดเผยของทั้งฝั่งโจทก์และจำเลยดูว่ามีการจะเคารพการตัดสินของทางศาล ไม่น่าจะเกิดความวุ่นนวาย
ปกติหุ้นเดือน ส.ค.-ก.ย. หุ้นไม่พร้อมไปไหน เพราะผลประกาอบการไตรมาส 2 ยังไม่เติบโต ทำให้ราคาหุ้นไม่ถูกลง เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นภูมิภาค เลือกหุ้นที่มีความเสี่ยงน้อย หุ้นปันผล และถ้สามารถถือหุ้นระยะยาวได้เริ่มเก็บเกี่ยวหุ้นที่มีการเติบโตสูงอย่ากลุ่มก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ และนิคมอุตสาหกรรม
เช่นเดียวกับ นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ประเด็นตัดสินจำนำข้าวพรุ่งนี้ จะกระทบเชิงจิตวิทยาเท่านั้น โดยเหตุผลที่เชื่อว่าจะไม่มีผลต่อหุ้นเพราะคิดว่าไม่น่ามีความรุนแรงเกิดขึ้นคือ เพราะมีโอกาสได้ยื่นอุทธรณ์ และสองทุกคนอาจจะมองเป้าหมายเดียวกันคือ นำไปสู่การเลือกตั้งที่ต้องช่วยให้ สภาพแวดล้อมมีความสงบก่อน และยังเห็นมาตรการป้องกันที่น่าจะควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ได้ดี
ตอนนี้ปัจจัยพื้นฐานไทยดีทั้งจีดีพีไตรมา2 ที่ออกมาดีกว่าคาด แต่ที่หุ้นไทยไม่ไปไหนเพราะปัจจุบันไม่มีเม็ดเงินใหม่ไหลเข้าหุ้นไทย ต่างชาติซื้อหุ้นไทยเพียง 1,500 ล้านบาท ขณะที่สัดส่วนสถาบันซื้อและราย่อยขายเป็นเม็ดเงินที่หักกลบกันทำให้เห็นว่าหุ้นไม่เป็ฯเงินหมุนเวียนจากกลุ่มเดิม จึงเชื่อว่าหุ้นไทยยังคงเคลื่อนไหวกรอบกรอบแคบต่อ
กลยุทธ์ต้องหาหุ้นที่เป็นรายตัวกระแสเชิงบงกและมองว่ารายได้ที่จะดีอนาคต
หลักทรัพย์ทีมีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 3,249 ล้านบาท ปิดที่ 20.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท (+3.54%)
BH มูลค่าการซื้อขาย 1,580 ล้านบาท ปิดที่ 213.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท (+4.93%)
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,555 ล้านบาท ปิดที่ 144.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,465 ล้านบาท ปิดที่ 488.00 บาท ลดลง 2.00 บาท (-0.41%)
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,265 ล้านบาท ปิดที่ 393.00 บาท ลดลง 1.00 บาท (-0.25%)