posttoday

บลจ.แนะทิ้งหุ้นไทย-หุ้นสหรัฐ-ทองคำ

22 มกราคม 2557

นักวิเคราะห์แนะลดน้ำหนักหุ้นไทย ทองคำ และหุ้นสหรัฐ หันไปญี่ปุ่นและเอเชียเหนือได้ผลตอบแทนมากกว่า

นักวิเคราะห์แนะลดน้ำหนักหุ้นไทย ทองคำ และหุ้นสหรัฐ หันไปญี่ปุ่นและเอเชียเหนือได้ผลตอบแทนมากกว่า

นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ กล่าวว่า กลยุทธ์การลงทุนในปี 2557 แนะให้ลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ทองคำ และตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาลง เนื่องจากมีโอกาสให้ผลตอบแทนไม่มาก ในขณะที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่น และกลุ่มประเทศเอเชียเหนือ ได้แก่ จีน ไต้หวัน ฮ่องกง และเกาหลีใต้ มีโอกาสให้ผลตอบแทนมากกว่า

“ผลตอบแทนที่คาดหวังจากการลงทุนในตลาดหุ้นไทยไม่น่าจะเกิน 10% เพราะต้องเผชิญกับปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงจากปัญหาการเมืองภายในประเทศ ทำให้นักลงทุนขาดความมั่นใจที่จะมาลงทุน ขณะที่ผลตอบแทนที่คาดหวังจากการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศนั้น โดยเฉลี่ยน่าจะอยู่ในระดับ 15-20% ซึ่งในบางตลาดอาจจะมากกว่านี้ เช่น ตลาดหุ้นจีน” นายสาห์รัช กล่าว

อย่างไรก็ตาม นายสาห์รัช กล่าวว่า หากดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงต่ำกว่า 1,250 จุด ก็พร้อมออกทริกเกอร์ฟันด์ เพราะเป็นระดับที่น่าสนใจ แต่คงจะเน้นการเลือกหุ้นมากขึ้น โดยให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มส่งออก กลุ่มที่มีการเติบโตจากการลงทุนในต่างประเทศ และลดน้ำหนักหุ้นกลุ่มบริโภค

นายสาห์รัช ยังกล่าวถึงตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ที่เคยแนะนำให้ลงทุนมาอย่างต่อเนื่องในปี 2556 แต่ในปีนี้ไม่แนะนำให้ลงทุนเพิ่มและควรหาจังหวะขายออกไปก่อน เนื่องจากราคาปรับตัวขึ้นไปมากแล้ว ทำให้การซื้อขายที่ระดับราคาปัจจุบันแพงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ดังนั้นโอกาสในการปรับขึ้นมีค่อนข้างจำกัด หรืออาจหาจังหวะลงทุนได้เมื่อราคาหุ้นมีการปรับฐานลงอย่างน้อย 10%

นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ กล่าวว่า ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นในช่วง 2-3 ปีนี้ แม้ว่าตลาดปรับขึ้นมากในช่วงปีที่ผ่านมา แต่อัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E) ปี 2557 ปรับลดลง มาอยู่ที่ประมาณ 15 เท่า จาก 16 เท่าในปี 2556 เพราะอัตราการเติบโตของกำไรปรับตัวดีขึ้นกว่าราคาหุ้นที่ปรับสูงขึ้น

“นอกจากนี้ ค่าเงินเยนที่มีทิศทางอ่อนค่าไปที่ 110 เยน/เหรียญสหรัฐฯ จะส่งผลดีต่อปัจจัยพื้นฐานและการลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เราคาดว่า ดัชนี NIKKEI 225 มีโอกาสปรับตัวขึ้นไปที่ 18,000-19,000 จุด ในปีนี้ หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 20% จากปัจจุบัน จึงแนะนำให้ทยอยซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัวต่ำกว่า 15,600 จุด” นายวิน กล่าว