posttoday

รัฐปูพรมแก้ลูกหนี้กองทุนฟื้นฟู8หมื่นราย

08 กุมภาพันธ์ 2554

ครม. ไฟเขียวปูพรมแก้หนี้ลูกหนี้เน่ากองทุนฟื้นฟู 8 หมื่นราย พร้อมสั่งตัดหนี้สูญกรณีที่ลูกหนี้เกษตรกร เสียชีวิต หรือทุพลภาพ แย้มจะช่วยเกษตรกรทั่วไปอีก 3.5 แสนราย

ครม. ไฟเขียวปูพรมแก้หนี้ลูกหนี้เน่ากองทุนฟื้นฟู 8 หมื่นราย พร้อมสั่งตัดหนี้สูญกรณีที่ลูกหนี้เกษตรกร เสียชีวิต หรือทุพลภาพ แย้มจะช่วยเกษตรกรทั่วไปอีก 3.5 แสนราย

นายกรณ์ จาติกวณิช  รมว.คลัง เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ( ครม. ) มีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอเรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร ซึ่งได้เสนอเป็น วาระจร โดยที่ประชุม ครม. อนุมัติผ่อนเกณฑ์แก้หนี้ให้กับเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูเกษตรกร ที่มีสถานะเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือ เอ็นพีแอล ก่อนวันที่ 31 ธ.ค.ปี 2552 ซึ่งมีจำนวนประมาณ 8 หมื่นราย สามารถเข้าโครงการปรับโครงสร้างหนี้ได้ โดยไม่ต้องผ่านการกลั่นกรองจากหน่วยงานราชการอีกขั้นตอนหนึ่ง

นอกจากนี้  ครม. อนุมัติให้ยกหนี้ให้กับเกษตรกรที่เป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ และเกษตรกรลูกหนี้ ธ.ก.ส. กรณีที่ลูกหนี้เสียชีวิตไปแล้วก่อนสิ้นปี 2552 หรือพิการ ทุพพลภาพ ไม่สามารถทำงานได้ จะได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพราะรัฐบาลไม่ต้องการให้หนี้สินต้องเป็นภาระกับลูกหลานของเกษตรกรต่อไป โดยจะให้ ธ.ก.ส. จำหน่ายหนี้เงินกู้ออกจากบัญชีเป็นหนี้สูญทั้งเงวินต้นและดอกเบี้ยและให้แยกออกเป็นบัญชีพิเศษเพื่อให้รัฐบาลตั้งงบประมาณชดเชยต่อไป

"มติครม.วันนี้เป็นการยกเลิกมติครม.สัปดาห์ก่อนเพื่อความสบายของเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูที่ไม่ต้องถูกกลั่นกรองเกณฑ์การเข้าโครงการจากหน่วยงานราชการหรือ ธ.ก.ส. ก่อน" นายกรณ์กล่าว

สำหรับกรณีของลูกหนี้เกษตรกรที่เป็นหนี้กับธนาคารกรุงไทย ซึ่งมีจำนวนไม่มากนัก ได้มอบหมายให้ ธ.ก.ส. ไปศึกษาเรื่องการโอนย้ายลูกหนี้ดังกล่าวเข้ามาอยู่ในความดูแลของ ธ.ก.ส. เนื่องจากเกรงว่าทาง ธนาคารกรุงไทย จะติดขัดเรื่องข้อกฎหมายในการยกหนี้ 50 % แรกไว้ก่อนได้

นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มติครม.วันนี้เป็นผลสืบเนื่องจากมติครม. เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2553 และหลังจากนี้ 1 สัปดาห์ให้กระทรวงการคลัง , ธ.ก.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาเรื่องมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีปัญหาหนี้เสียแต่ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูอีก 3.5 แสนคนเพิ่มเติม และให้ธ.ก.ส. ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลมาเสนอให้ ครม. พิจารณาต่อไป