posttoday

คุมโควิดไม่อยู่แรงกว่ารอบแรก5เท่า

20 ธันวาคม 2563

นักวิชาการหวั่น คุมโควิดไม่อยู่แรงกว่ารอบแรก 4-5 เท่าและใช้เวลาควบคุมมากกว่า 2 เท่า

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง และ อดีตรองอธิการบดีฝ่ายวิจัยฯ ม. รังสิต กล่าวถึง ผลกระทบ Covid-19 ระลอกสองจากแรงงานต่างด้าวสมุทรสาครว่า หากคุมระบาดระลอกสองไม่ได้ การติดเชื้อจะสูงกว่าระลอกแรก 4-5 เท่าและใช้เวลาควบคุมมากกว่า 2 เท่าจากตัวอย่างของหลายประเทศที่คุมการแพร่ระบาดระลอกสองไม่ได้ การกระตุ้นการท่องเที่ยวควรทำหลังเดือนมีนาคมปีหน้า หากปล่อยให้มีการจัดงานปีใหม่รวมคนจำนวนมากโดยไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์การควบคุมโรคระบาดโดยเคร่งครัดมีความเสี่ยงสูงที่จะคุมการแพร่ระบาดไม่ได้ ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจจะหนักกว่าเดิมหลายเท่า เนื่องจากมีข้อจำกัดทางด้านการคลังและงบประมาณเพิ่มขึ้นตามลำดับและหนี้สาธารณะต่อจีดีพีก็ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

หากจะหาเม็ดเงินงบประมาณมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจและเยียวยาผลกระทบจากการ lockdown หากคุมการแพร่ระบาดไม่ได้ ต้องไม่เลื่อนหรือลดภาษีทรัพย์สินอีก เพราะการจัดเก็บภาษีทรัพย์สินไม่กระทบคนส่วนใหญ่และภาษีเหล่านี้มีเป็นแหล่งรายได้หลักขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการดูแลสวัสดิการประชาชนและพัฒนาพื้นที่

นอกจากนี้ ผลกระทบที่มีต่อตลาดการเงินจะรุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากการแพร่ระบาดที่สมุทรสาครมีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและอาจมีผู้ติดเชื้อจำนวนมากที่ไม่ตรวจพบ คาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นน่าจะมีการปรับฐานครั้งใหญ่และมีการเทขายทำกำไรในสัปดาห์หน้า โอกาสที่ดัชนีตลาดหุ้นจะปรับตัวลงต่ำกว่า 1,438 จุดมีความเป็นไปได้ นอกจากนี้เงินบาทน่าจะชะลอการแข็งค่าลงบ้าง

คุมโควิดไม่อยู่แรงกว่ารอบแรก5เท่า

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า รัฐบาลควรอนุมัติงบฉุกเฉินเพื่อดูแลผลกระทบต่อผู้ประกอบการและการชดเชยรายได้ให้กับแรงงานรายวันที่ถูกให้หยุดงานจากมาตรการ lockdown ในบางพื้นที่ในจังหวัดสมุทรสาคร

นอกจากนี้ ควรเพิ่มงบประมาณเพื่อตรวจหาเชื้อเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยงทั้งหมดโดยเฉพาะในจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม สมุทรปราการ นครปฐม ระนอง ตาก ราชบุรี เชียงใหม่ เชียงราย ต้องดำเนินการอย่างเข้มงวดต่อการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าอุปกรณ์ทางการแพทย์ หน้ากากอนามัย ถุงมือยางและเจลล้างมือ รวมทั้งการจัดสรรเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้เพียงพอในบางจังหวัดที่อาจต้องมีผู้ที่เข้ารักษาตัวเพิ่มขึ้น ตั้งด่านในการตรวจโรคทุกคนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร (ทั้งคนไทยและแรงงานต่างด้าว) ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางออกนอกพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครและต้องตรวจผู้ใช้บริการรถเมล์สายมหาชัยปากน้ำเข้ามากรุงเทพฯ

รวมทั้งรถสาธารณะจากสมุทรสาครไปยังจังหวัดอื่นๆของประเทศไทย ผู้ที่โดยสารรถเมล์จากพื้นที่เสี่ยงเข้าสู่กรุงเทพฯต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกคนและต้องพกเจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์ เช่น สาย ปอ 68 สมุทรสาคร-บางลำพู สาย 105 มหาชัยเมืองใหม่-คลองสาน สาย 140 แสมดำ-จุฬาฯและอนุสาวรีย์ชัย ปอ 7 (สมุทรสาคร-หัวลำโพง) สาย 43 ศึกษานารี 2-เทเวศร์ รวมทั้ง สาย 8328 สมุทรสาคร เชื่อมฝั่งธน เป็นต้น นอกจากนี้ ทาง ขสมก และ รถร่วม ขสมก ต้องเตรียมหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือให้ทุกคนด้วยหากผู้โดยสารไม่ได้พกพามาด้วย หากมีปัญหาเรื่องขาดแคลนงบประมาณ รัฐบาลต้องให้การสนับสนุน การควบคุมให้การแพร่ระบาดอยู่ในวงจำกัดมีความสำคัญมากต่อเศรษฐกิจของประเทศ หากเกิดการแพร่ระบาดในวงกว้างและต้อง Lockdown ทั่วประเทศแบบเดือนเมษายนที่ผ่านมา ผู้ประกอบการจะเข้าสู่ภาวะการล้มละลายอีกจำนวนมากพร้อมกับการว่างงานของผู้ใช้แรงงานในวงกว้าง ธุรกิจที่กำลังจะกระเตื้องขึ้นจะทรุดตัวลงไปอีก