posttoday

รีดรายได้รัฐวิสาหกิจลดถังแตก

12 พฤศจิกายน 2563

รมว.คลัง สั่งรีดรายได้จากรัฐวิสาหกิจเพิ่ม เสริมเงินกู้ชดเชยขาดดุล ดูแลเศรษฐกิจ

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยจะปรับตัวดีขึ้นอย่างช้าๆ โดยการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤติโควิด-19 รัฐบาลต้องเร่งสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจ ผ่านมาตรการเยียวยาและฟื้นฟู ควบคู่กับการบริหารการเงินภาครัฐเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด

ทั้งนี้ งบประมาณที่จะใช้ในมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูต่าง ๆ จะมาจากทั้งงบประมาณปกติ และจากการกู้เงินตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ซึ่งเม็ดเงินจะต้องลงไปถึงประชาชนระดับฐานราก และช่วยเหลือผู้ประกอบการ โดยเฉพาะในภาคท่องเที่ยว โดยทั้งหมดได้ดำเนินการผ่านโครงการต่าง ๆ อาทิ เราเที่ยวด้วยคน คนละครึ่ง เป็นต้น

สำหรับปีงบประมาณ 2564 วงเงิน 3.3 ล้านล้านบาท เป็นงบประมาณแบบขาดดุลประมาณ 6 แสนล้านบาท ซึ่งรัฐบาลก็ต้องกู้เงินชดเชยการขาดดุล ซึ่งในปีนี้รัฐบาลขอให้รัฐวิสาหกิจส่งเงินเพิ่ม ทั้งจากกำไรและเงินที่มีอยู่ใน กองทุนต่างๆ เพื่อให้รัฐบาลมีรายได้เพียงพอกับรายจ่ายไม่ต้องกู้เพิ่ม

"ยืนยันว่า แหล่งเงินที่จะใช้ในการดูแลเศรษฐกิจในปีนี้ของรัฐบาลไม่มีปัญหา ฐานะการคลังยังแข็งแกร่ง แต่ปีหน้าอาจจะลำบาก เพราะผู้เสียภาษีจะเจอปัญหาจากผลประกอบการปีนี้ที่ถูกกระทบจากโควิด-19 ซึ่งจะต้องเสียภาษีปีหน้า กระทรวงการคลังได้เตรียมการไว้แล้วว่าปีหน้าจะมีวิธีการหาเงินอย่างไร" นายอาคม กล่าว

นายอาคม กล่าวว่า รัฐบาลยังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่งเงินที่จะใช้มาจากการระดมทุนในตลาดทุน และการกู้เงิน โดยรัฐบาลได้เร่งรัดการลงทุน รองรับการลงทุนจากต่างชาติ และการเดินหน้าสู่อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ ซึ่งจะเป็นอีกทางเลือกในการสร้างรายได้ให้กับประเทศ