posttoday

คนละครึ่ง ติดลมบนยอดใช้จ่ายทะลุหมื่นล้าน

09 พฤศจิกายน 2563

คลังแจง หกโมงเช้า 11 พ.ย. นี้ เปิดลงทะเบียนคนครึ่งรอบเก็บตก 2.3 ล้านคน

นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า โครงการคนละครึ่งจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการอีกครั้งในวันที่ 11 พ.ย.2563 (11/11) ระหว่างเวลา 06.00 น. – 23.00 น. ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com จนกว่าจะครบจำนวน

ทั้งนี้ ขอย้ำว่า ผู้ที่สามารถลงทะเบียนได้จะต้องเป็นผู้ไม่เคยลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งมาก่อน หรือเป็นผู้เคยลงทะเบียนแต่ไม่สำเร็จจึงถือเป็นผู้ที่ไม่เคยได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการ ซึ่ง ณ วันที่ 9 พ.ย. 2563 มีสิทธิคงเหลือจากผู้ไม่ผ่านการตรวจสอบสิทธิและผู้ไม่เริ่มใช้สิทธิภายในกำหนด 14 วัน ที่จะนำมาเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเป็นจำนวน 2.3 ล้านสิทธิ

คนละครึ่ง ติดลมบนยอดใช้จ่ายทะลุหมื่นล้าน

รองโฆษกกระทรวงการคลังยังได้กล่าวเพิ่มเติมถึงคุณสมบัติของผู้ที่สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการว่า ต้องเป็นประชาชนสัญชาติไทยอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปในวันลงทะเบียน มีบัตรประจำตัวประชาชน และไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐซึ่งได้รับสิทธิจากโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยขอให้เตรียมลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งในวันที่ 11/11 ก่อนจำนวนสิทธิจะหมดลงอีกครั้ง อย่างไรก็ดี ผู้ได้รับสิทธิและใช้สิทธิตามโครงการคนละครึ่งแล้ว จะไม่สามารถเข้าร่วมมาตรการช้อปดีมีคืนได้

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ณ วันที่ 9 พ.ย. 2563 เวลา 12.00 น. มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 5.57 แสนร้านค้า และผู้ใช้สิทธิแล้วจำนวน 7,352,274 คน โดยมียอดการใช้จ่ายสะสม 10,155 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 5,178 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 4,977 ล้านบาท ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 214 บาทต่อครั้ง โดยจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่ ตามลำดับ

ทั้งนี้ ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ต่างให้ความเห็นตรงกันว่า เป็นโครงการที่ดี ทำให้ยอดขายเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าจะได้รับเงินช้าไปบ้าง คือเงินในส่วนของลูกค้าจ่ายจะเข้าเข้าบัญชีเวลา 02.00 น. ของวันรุ่งขึ้น และในส่วนของที่รัฐจ่ายสมทบให้อีกครึ่งหนึ่งจะเข้าบัญชีร้านค้าในเวลา 17.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ซึ่งยอมรับได้ ถือว่าไม่ได้ช้าเกินไป เมื่อเทียบกับยอดขายที่ได้เพิ่มขึ้นและขายได้สินค้าได้หมดเร็วขึ้น