ธ.ก.ส.เร่งเกษตรกรลงทะเบียนบัญชีต่างธนาคารรับเงิน5พัน
ธ.ก.ส. ลุยจ่ายเงินเกษตรกร 5 พัน เร่งคนไม่มีบัญชี ธ.ก.ส. ลงทะเบียนบัญชีธนาคารอื่นเพื่อรับเงิน
นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีเกษตรกรที่ไม่มีบัญชีของ ธ.ก.ส. ได้แจ้งบัญชีเงินฝากที่มีอยู่กับธนาคารอื่นๆ ผ่านเว็บไซต์ www.เยียวยาเกษตรกร.com ที่เปิดให้แจ้งเมื่อวันที่ 7 พ.ค. ตั้งแต่เวลา 20.00 น. แล้วจำนวน 2 แสนราย ยังเหลือเกษตรกรในระบบที่ใช้บัญชีธนาคารอื่นแต่ยังไม่ได้แจ้งอีกกว่า 2 แสนราย โดย ธ.ก.ส. ขอให้มาแจ้งบัญชีภายในวันที่ 13 พ.ค.นี้ เพื่อให้ ธ.ก.ส.นำข้อมูลไปตรวจสอบในระบบธนาคาร และสามารถโอนเงินได้ทันตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. เป็นต้นไป
ทั้งนี้ สำหรับเว็บไซต์ www.เยียวยาเกษตรกร.com มีไว้สำหรับแจ้งเลขที่บัญชี และตรวจสอบสถานะการโอนเงินเท่านั้น ไม่ได้เป็นช่องทางให้เกษตรกรมาขึ้นทะเบียนใหม่ ซึ่งการคัดกรองเป็นหน้าที่ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งส่งข้อมูลมาให้ ธ.ก.ส.แล้ว 8.3 ล้านราย โดย ธ.ก.ส.จะนำข้อมูลไปตรวจสอบความซ้ำซ้อนการรับสิทธิ์อื่น เช่น มาตรการ 5,000 บาทจากเราไม่ทิ้งกัน ข้าราชการบำนาญ ผู้ได้รับเงินประกันตน หากได้รับสิทธิ์อื่นไปแล้ว ก็จะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ
นายอภิรมย์ กล่าวว่า การตรวจสอบสถานการณ์โอน หลังจากที่ ธ.ก.ส.คัดกรองสิทธิ์ซ้ำซ้อนแล้ว หากพบว่า เคยได้รับเงินช่วยเหลือจากมาตรการอื่นไปแล้ว ระบบก็จะแจ้งว่า “ท่านไม่ได้รับสิทธิ์เนื่องจากท่านได้รับสิทธิ์จากมาตรการอื่น” ไปแล้ว ส่วนรายที่ไม่มีปัญหาระบบก็จะแจ้งว่า “ท่านได้รับสิทธิ์ระบบจะเร่งโอนเงินเข้าบัญชี” ซึ่งขณะนี้ กำลังให้ทีมงานทำระบบแจ้งข้อมูลให้กับเกษตรกรเข้าใจง่ายที่สุด เมื่อตรวจสอบแล้วจะได้ไม่มีปัญหา
สำหรับมาตรการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) โดยจ่ายเงินให้แก่ครัวเรือนเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับหน่วยงานของรัฐ รายละ 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน (พ.ค. – ก.ค. 63) จำนวน 10 ล้านราย วงเงินงบประมาณจำนวน 150,000 ล้านบาท ธ.ก.ส. จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง หลังจากระบบประมวลข้อมูลและความซ้ำซ้อนมาตรการช่วยเหลืออื่นๆ ทั้งนี้ เมื่อ ธ.ก.ส. ได้รับเงินจากกระทรวงการคลัง จะรีบดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรต่อไป โดยจะกระจายการโอนครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ประมาณวันละ 1 ล้านราย คาดเริ่มทยอยโอนเงินได้ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.2563 เป็นต้นไป โดยยืนยันว่า การโอนให้วันละ 1 ล้านราย ถือเป็นมากที่สุด และเหมาะสมที่ระบบจะสามารถรองรับได้แล้ว


