posttoday

สคร.เร่งลงทุนรัฐวิสาหกิจ2.5แสนล้าน

23 กุมภาพันธ์ 2563

สคร.เดินหน้าเต็มสูบเร่งลงทุนรัฐวิสาหกิจไตรมาสแรก 1 แสนล้าน และเข็น PPP โครงการอีก 1.5 แสนล้านบาท

นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวถึงภาพรวมแผนการดำเนินงานในปี 2563 ว่า สคร. อยู่ระหว่างเร่งผลักดันโครงการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะมีโครงการ PPP ที่ได้รับการพิจารณาและผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (บอร์ด PPP) เพิ่มเติม จำนวน 4 โครงการ มูลค่าลงทุนรวม 3.1 หมื่นล้านบาท และขณะนี้มีโครงการ PPP ที่จะลงนามในสัญญาร่วมทุนอีกอย่างน้อย 5 โครงการ มูลค่าลงทุนรวม 1.5 แสนล้านบาท

นอกจากนีร้ สคร. ได้ให้รัฐวิสาหกิจเรน่งเบิกจ่ายงบลงทุนในส่วนที่สามารถทำได้ให้เร็วขึ้น (Front-Loaded) และหาโครงการลงทุนใหม่ ๆ มาเพิ่มเติม โดยทาง สคร. จะเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาที่ทำให้การลงทุนติดขัด พร้อมทั้งได้มีการยกระดับการติดตามการลงทุนของรัฐวิสาหกิจให้เข้มข้นขึ้น โดยร่วมมือกับกรมบัญชีกลางในการติดตามความคืบหน้าของโครงการลงทุนที่สำคัญของภาครัฐที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1 พันล้านบาทขึ้นไป ซึ่ง สคร. จะรับผิดชอบในส่วนของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด พร้อมทั้งได้เพิ่มการติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนของบริษีทในเครือขนาดใหญ่ของรัฐวิสาหกิจและรัฐวิสาหกิจประเภทสถาบันการเงิน เพื่อให้การติดตามการลงทุนของรัฐวิสาหกิจครอบคลุมมากขึ้น

ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2563 มีแผนการเบิกจ่ายงบลงทุน ประมาณ 3.5 แสนล้านบาท โดย ณ สิ้นเดือน ม.ค. 2563 มีเป้าหมายการเบิกจ่ายสะสม อยู่ที่ 3.53 หมื่นล้านบาท ซึ่งรัฐวิสาหกิจสามารถเบิกจ่ายได้ 3.72 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 105% ของเป้าหมาย โดย สคร. ตั้งเป้าหมายให้มีการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจในปี 2563 จะต้องไม่น้อยกว่า 90% ของแผนการเบิกจ่ายทั้งปี

"ที่ผ่านมา นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ตั้งเป้าหมายให้มีการเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสาหกิจในไตรมาส 1/2563 ให้ได้ 1 แสนล้านบาท ซึ่งสามารถเบิกจ่ายได้แล้ว 2.9 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลือประมาณ 7 หมื่นกว่าล้านบาท คาดว่าจะเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมายภายในเดือน มี.ค. นี้แน่นอน" นายประภาศ กล่าว

สำหรับการจัดเก็บรายได้แผ่นดินของรัฐวิสาหกิจและกิจการที่กระทรวงการคลังถือหุ้นต่ำกว่า 50% นั้น มีเป้าหมายการจัดเก็บอยู่ที่ 1.88 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 2.08 หมื่นล้านบาท โดยผลการจัดเก็บ ณ วันที่ 19 ก.พ. 2563 อยู่ที่ 9.56 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 50% ของเป้าหมาย โดย สคร. คาดว่าในปีนี้จะสามารถจัดเก็ฐรายได้นำส่งรัฐเป็นไปตามเป้าหมาย เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้จ่ายต่าง ๆ ของภาครัฐและสามารถรักษาเสถียรภาพทางการคลัง

"เศรษฐกิจปี 2563 มีแนวโน้มชะลอตัวแรง รัฐวิสาหกิจจึงมีความสำคัญในการเข้ามาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยการทำงานของ สคร. ในปีนี้มีเป้าหมายสำคัญ คือ การเร่งการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ หาแนวทางในการกระตุ้นการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจให้มากขึ้น และจูงใจให้เอกชนร่วมลงทุนกับภาครัฐเพิ่มมากขึ้น ผ่านโครงการ PPP รวมถึงการสร้างความแข็งแกร่งและความยั่งยืนให้รัฐวิสาหกิจในทุกด้าน" นายประภาศ กล่าว

สคร.เร่งลงทุนรัฐวิสาหกิจ2.5แสนล้าน

นายชาญวิทย์ นาคบุรี รองผู้อำนวยการ และรักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการประเมินผลรัฐวิสาหกิจ สคร. กล่าวว่า ในเดือน มี.ค. 2563 จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยจะมีการเสนอการจัดทำแผนพัฒนารัฐวิสาหกิจให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.ค. นี้ เพื่อใช้ในการจัดทำแผนงานของรัฐวิสาหกิจในปี 2564 รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์การประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจให้แล้วเสร็จภายในเดือน พ.ค. 2563 เพื่อใช้ในการประเมินผลรัฐวิสาหกิจในปีหน้า และกำหนดแนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดี ซึ่งใช้ร่วมกับหลักการและแนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดีในรัฐวิสาหกิจปี 2562

นอกจากนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางการจำหน่ายหลักทรัพย์ที่ไม่มีความจำเป็นต้องถือครองเพิ่มเติมอีก 4 แห่ง จากปี 2561-2562 ได้มีการจำหน่ายไปแล้ว 2 แห่ง