posttoday

CRC เทรดวันแรก!! ขึ้นแท่นหุ้นIPO ขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ตลาดหลักทรัพย์ฯ

20 กุมภาพันธ์ 2563

เซ็นทรัล รีเทล โชว์ศักยภาพหุ้นไอพีโอกลุ่มธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ที่สุดเบอร์ 2 ของโลก มีมูลค่าเสนอขายรวม 78,124 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ราคา IPO อยู่ที่ 253,302 ล้านบาท

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า จากการเตรียมความพร้อมเพื่อนำ CRC เสนอขายหุ้นไอพีโอที่มูลค่าสูงสุดของตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกทั้งยังเป็นหุ้นไอพีโอในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกที่มีมูลค่าเสนอขายสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นผลสำเร็จ จากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มองข้ามผลกระทบต่อสภาวะของตลาดหุ้นในระยะสั้น เพราะเชื่อมั่นในโอกาสเติบโตในระยะยาวจากปัจจัยพื้นฐานที่มั่นคงและแข็งแกร่งของบริษัท

โดยพร้อมจะผลักดันการเติบโตทั้งแบบ Organic ผ่านการขยายและปรับปรุงสาขาของแบรนด์ค้าปลีกชั้นนำในเครือทั้งในประเทศไทย รวมทั้งในประเทศเวียดนามและอิตาลี ซึ่งมีแผนการและเป้าหมายการเพิ่มจำนวนร้านค้าที่ชัดเจน

นอกจากนี้ การไอพีโอ ที่ผ่านมาทำให้ CRC มีความพร้อม สำหรับการแสวงหาโอกาสในการขยายธุรกิจค้าปลีกในรูปแบบ Inorganic หากมีโอกาสควบรวมกิจการหรือเข้าซื้อกิจการที่น่าสนใจทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การลงทุนอย่างรอบคอบและมีวินัย เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจค้าปลีกไทย ส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม รวมทั้งสร้างผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจให้กับนักลงทุน”

สำหรับการนำเสนอขายหุ้นไอพีโอของ CRC ที่ผ่านมา ยังเป็นการสร้างสถิติใหม่ให้กับตลาดหุ้นทั้งในประเทศและในระดับโลกถึง 4 สถิติ ทั้งการเป็นหุ้น IPO ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นไทย ด้วยมูลค่าเสนอขายที่สูงที่สุดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อมทั้งยังเป็นไอพีโอในกลุ่มค้าปลีกที่มีมูลค่าเสนอขายสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากมูลค่าตลาดรวมที่ราคาเสนอขายสุดท้ายแล้ว ทำให้ ‘CRC’ มีโอกาสที่จะได้จัดอยู่ในหุ้นที่มีขนาดใหญ่ที่สุด 15 ลำดับแรกของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายใน 3 วันหลังเริ่มทำการซื้อขาย

นอกจากนี้ CRC ยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก โดยเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2563 ทางบริษัท ได้ต้อนรับนักลงทุนและประชาชน 1,400 คน ที่มาร่วมรับฟังการบรรยายสรุปการเสนอขายหุ้น CRC ซึ่งถือเป็นการทุบสถิติจำนวนคนที่เข้าร่วมฟังมากที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย

นายญนน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า CRC จะเติบโตไปกับแพลตฟอร์มค้าปลีกแห่งอนาคต ที่ไม่ใช่มีเฉพาะแค่หน้าร้าน ไม่ได้มีเฉพาะ E-Commerce แต่เป็นการผนวกจุดเด่นจากทุกช่องทางทั้งออฟไลน์และออนไลน์ มายกระดับขีดความสามารถในการทำธุรกิจค้าปลีกในยุคปัจจุบันผ่าน Customer-Centric Omni-Channel ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มค้าปลีกที่สามารถสร้างรายได้จากทุกที่ ทุกเวลา พร้อมมอบประสบการณ์ที่ดีเข้าถึงตัวเลือกสินค้าที่น่าเชื่อถือได้อย่างหลากหลาย

ทั้งนี้ ภายหลังจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตระกูลจิราธิวัฒน์ จะยังคงถือหุ้นใน CRC ด้วยสัดส่วนกว่า 70% (ภายใต้สมมติฐานว่าจะมีการใช้สิทธิซื้อหุ้นส่วนเกินทั้งจำนวน) สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของผู้ก่อตั้งที่จะยังเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันการเติบโตของบริษัท ผ่านการบริหารจัดการของทีมผู้บริหารมืออาชีพที่มีประสบการณ์

โดยบริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินรวม หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และภายหลังการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย ทั้งนี้ อาจพิจารณาจ่ายเงินปันผลแตกต่างไปจากนโยบายที่กำหนดไว้ได้ ชึ้นอยู่กับผลประกอบการ สภาพคล่องทางการเงิน และความจำเป็นในการใช้เงินทุนหมุนเวียนเพื่อบริหารกิจการ และแผนการขยายธุรกิจในอนาคต รวมถึงภาวะเศรษฐกิจ