4 ปัจจัยเสี่ยงสำคัญฉุดเศรษฐกิจ-ตลาดหุ้นปี 63

บล.ดีบีเอสฯ คาดบรรยากาศการลงทุนช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจอาจจะสั่นคลอนไปบ้าง แต่เชื่อไม่กระทบรุนแรง สำหรับระยะยาวให้นัำหนักการเมืองมากขึ้น

บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุโดยคาดว่าจะมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจกลางม.ค.63 และอภิปรายฯปลายม.ค.หรือต้นก.พ.63 โดยมีความเห็นว่าบรรยากาศการลงทุนในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจอาจจะสั่นคลอนไปบ้าง แต่เชื่อว่าจะไม่กระทบรุนแรง ส่วนการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) มองว่าเป็นสิ่งที่ทางรัฐบาลก็จะทำอยู่แล้วไม่ว่าจะมีหรือไม่มีการอภิปรายฯก็ตาม สำหรับผลการปรับครม.คาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเชิงนโยบายของรัฐบาลอย่างมีนัยสำคัญ

"โดยรวมมองว่าปัจจัยเสี่ยงด้านการเมืองในประเทศยังไม่ได้มีน้ำหนักมากในช่วงสั้น ส่วนระยะยาวอาจมีมากขึ้นก็ได้ขึ้นกับสถานการณ์" บทวิเคราะห์บล.ดีบีเอส ระบุ

สำหรับปัจจัยเสี่ยงสำคัญ ที่บล.ดีบีเอส ฯให้น้ำหนักมี 4 เรื่องดังนี้

1.กำลังซื้อภายในประเทศที่ซบเซา

2.ผลกระทบจากภัยแล้งรุนแรง ทั้งกับภาคเกษตรและอุตสาหกรรม

3.การส่งออกฟื้นตัวช้า

4.ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์และมาตรฐานบัญชี

จาก 4 ปัจจัยเสี่ยงสำคัญทำให้เศรษฐกิจไทยในปี 63 จะยังเติบโตต่ำกว่าศักยภาพ โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ เศรษฐกิจไทยปี 63 ไว้ที่ 2.5-2.8% ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่าเศรษฐกิจมีอัตราการเติบโตตามศักยภาพที่ 3-4%

ในเชิงกลยุทธ์ บล.ดีบีเอส ฯ แนะนำเลือกลงทุนหุ้นที่อยู่ในแนวโน้มใหญ่ หรือเมกะเทรนด์( Mega Trend) โดยทยอยซื้อสะสมเป็นช่วง ๆ ซึ่ง 6 ธีมและหุ้นเด่นใน ไตรมาสแรกขอปี 63 มีดังนี้

ธีมดิจิตอล – หุ้นเด่น ADVANC, DIF

 

ธีมโครงสร้างพื้นฐาน & ขนส่งมวลชน – หุ้นเด่น BTS, AMATA, WHA

ธีมท่องเที่ยว – หุ้นเด่น AOT, CPALL

 

ธีมโลจิสติกส์ & คลังสินค้า – หุ้นเด่น AIMIRT, VGI (Kerry Express)

ธีมสังคมสูงวัย – หุ้นเด่น BDMS, CHG

 

ธีมรถยนต์ไฟฟ้า & พลังงานทางเลือก – หุ้นเด่น GPSC