posttoday

คลังลุยไฟแจกเงินท่องเที่ยวคนจนอีก1,000บาท ดื่มสุราสูบบุหรี่เพิ่ม

28 สิงหาคม 2562

คนจน 14.6 ล้านคน ได้เฮอีกรอบ คลังให้สิทธิได้เงินท่องเที่ยว 1,000 บาท เปิดทางซื้อสุราเบียร์บุหรี่ได้เต็มที่

คนจน 14.6 ล้านคน ได้เฮอีกรอบ คลังให้สิทธิได้เงินท่องเที่ยว 1,000 บาท เปิดทางซื้อสุราเบียร์บุหรี่ได้เต็มที่

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า กรณีที่มีผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน นำเงินที่ได้แจกเพิ่มอีกเดือนละ 500 บาท เป็นเวลา 2 เดือน รวมเป็นเงิน 1,000 บาท ไปซื้อเหล้า เบียร์ บุหรี่ ยืนยันว่าเป็นแค่คนส่วนน้อย ซึ่งตอนนี้ได้สั่งให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามข้อมูลและสื่อสารให้ผู้มีรายได้น้อยเข้าใจวัตถุประสงค์ของมาตรการ และกระตุ้นให้ใช้เงินอย่างถูกต้อง

อย่างไรก็ตามเมื่อถามว่า กรณีมาตรการชิม ช้อป ใช้ ที่แจกเงิน 1,000 บาท และเปิดให้สามารถนำไปซื้อ บุหรี่ เบียร์ สุรา ได้ด้วยนั้น นายอุตตม ไม่ตอบคำถามดังกล่าว พร้อมเดินหน้านิ่งออกจากวงสัมภาษณ์ทันที

อย่างไรก็ตาม นายอุตตม กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมีเป้าหมายชัดเจน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค เกิดการจับจ่ายใช้สอยและเกิดสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และชุมชน หากไม่มีมาตรการ ความมั่นใจก็จะหายไป การจับจ่ายใช้สอยก็จะหายไป คนที่ถูกกระทบก็คือผู้ประกอบการ และเศรษฐกิจในภาพรวม

น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน14.6 ล้านราย สามารถมาลงทะเบียนเพื่อรับเงิน 1,000 บาท ตามมาตรการ “ชิมช้อปใช้” โดยเปิดกว้างให้ประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถมาลงทะเบียนเพื่อรับเงินได้ รวมทั้งไม่ห้ามให้นำเงิน 1,000 บาท ที่รัฐบาลจะจ่ายผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง (G-Wallet) นำไปซื้อสินค้าประเภทสุรา เบียร์ บุหรี่ แค่ห้ามไม่ให้นำไปจ่ายเติมน้ำมันตามสถานีบริการน้ำมันเท่านั้น

“การใช้เงินแจกท่องเที่ยว 1,000บาท เป็นสิทธิ์ของผู้ที่ได้เงิน จะไปใช้ซื้อสุรา เบียร์ บุหรี่ คลังไปห้ามไม่ได้ถึงแม้ว่าเป็นเรื่องไม่ควรก็ตาม” น.ส.สุทธิรัตน์ กล่าว

ทั้งนี้มาตรการแจกเงินให้ผู้ถือบัตรคนจนเพิ่ม 2 เดือน 1,000 บาท ใช้เงินงบประมาณ 14,600 ล้านบาท ให้คนสูงอายุอีก 1,000 บาท เป็นเงิน 5,000 ล้านบาท และคนจนที่มีลูกอายุไม่เกิน 6 ขวบ จำนวน 600 บาท เป็นวงเงินอีก 500 ล้านบาท

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ผู้ถือบัตรคนจนสามารถจองสิทธิ์รับเงิน 1,000 บาท จากมาตรการท่องเที่ยวที่จะออกมาได้ ซึ่งดำเนินการปกติและต้องนำไปใช้จ่ายในจังหวัดที่ลงทะเบียนท่องเที่ยวตามกำหนดเวลา ส่วนเรื่องการนำเงินที่ได้ไปทานอาหารและสั่งสุรา เบียร์ มาทานด้วย คงห้ามไม่ได้ ทั้งนี้วงเงินที่ใช้มาตรการที่ใช้ทั้งหมด 20,000 ล้านบาท จะช่วยทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ 0.1-0.2%

ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางได้เริ่มเปิดรับสมัครผู้ประกอบการร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมมาตรการชิมช้อปใช้ โดยตั้งเป้าหมายว่าจะมีร้านค้าทั้งที่อยู่ในส่วนร้านธงฟ้าประชารัฐซึ่งเป็นฐานข้อมูลเดิม และร้านค้ารายใหม่ที่สนใจสมัครเข้าร่วมมาตากรรทั้งสิ้น 1.3 แสนร้านค้า ซึ่งคาดว่าจะเพียงพอรองรับการใช้งานจากประชาชน 10 ล้านราย

สำหรับประชาชนที่สนใจลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิมาตรการชิมช้อปใช้ รับเงิน เป๋าตัง (G-Wallet) จำนวน 10 ล้านคน ได้ ทาง www.ชิมช้อปใช้.com ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. – 15 พ.ย. 2562 (วัน/รอบละ 1 ล้านคน) โดยมีเงื่อนไขต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย มีบัตรประจำตัวประชาชน และมีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน และมีสมาร์ทโฟน เครือข่ายอินเตอร์เน็ต มีอีเมลล์ โดยต้องกรอกข้อมูล ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ และอีเมลล์ พร้อมเลือกจังหวัดที่ประสงค์จะเดินทางไปใช้สิทธิ ต้องไม่ใช่จังหวัดตามสำเนาทะเบียนบ้าน

ทั้งนี้ เมื่อลงทะเบียนสำเร็จ ระบบจะยืนยันให้ทราบทันทีว่าลงทะเบียนสำเร็จ และจะแจ้งทางอีเมลล์ให้ทราบอีกครั้ง กรณีลงทะเบียนไม่สำเร็จ (กรณีรายที่เกิน 1 ล้าน) ระบบจะแจ้งให้ทราบว่าเต็มจำนวนสำหรับรอบวันนั้นแล้ว) และสามารถลงทะเบียน ได้อีกครั้งในรอบถัดไป หลังจากนั้นข้อมูลจะถูกส่งไปตรวจสอบความถูกต้องกับกรมการปกครอง และภายใน 3 วัน ธนาคารกรุงไทยจะส่งเอสเอ็มเอสไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่แจ้งไว้ หากถูกต้อง จะแจ้งให้ทราบว่า ได้รับสิทธิ พร้อมแจ้งรายละเอียด จังหวัด และระยะเวลา วันที่สามารถไปใช้สิทธิให้ทราบ (ภายใน 14 วัน หลังจากได้รับเอสเอ็มเอส)

หากไม่ถูกต้อง จะแจ้งให้ทราบกรณีที่ผิดพลาด ซึ่งสามารถดำเนินการลงทะเบียนใหม่ในรอบถัดไปได้ และดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น เป๋าตัง เมื่อได้รับเอสเอ็มเอส ยืนยันการได้รับสิทธิ ตามขั้นตอน โดยจะมีระบบให้ยืนยันตัวตน หลังจากนั้นจะแจ้งวงเงิน 1,000 บาทในเป๋าตัง ช่องที่ 1 และเริ่มใช้งาน และจะมีเป๋าตัง ช่อง 2 เพื่อให้เติมเงินและนำไปใช้จ่าย และได้รับเงินชดเชย (Cash Back) 15% ของจำนวนเงินที่ใช้จ่าย แต่ไม่เกิน 4,500บาท จากวงเงินการใช้จ่ายไม่เกิน 3,000 บาท