posttoday

ยอดขายจักรยานยนต์วูบ ศก.ตกรายได้ลด

16 มิถุนายน 2562

จักรยานยนต์ปี 2562 หดตัว 2 % จากเศรษฐกิจชะลอตัว ราคาสินค้าเกษตรลด

จักรยานยนต์ปี 2562 หดตัว 2 % จากเศรษฐกิจชะลอตัว ราคาสินค้าเกษตรลด

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ธนาคารกสิกรไทย คาดว่าปี 2562 ปัจจัยเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัว ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ และความเข้มงวดของการปล่อยสินเชื่อ เป็นประเด็นหลักที่ส่งผลต่อยอดขายรถจักรยานยนต์ ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าในปี 2562 นี้น่าจะทำยอดขายได้ 1,755,000 คัน หดตัว 2% จากปีก่อน

สำหรับ ปี 2563 มาตรการจัดการมลพิษทางอากาศจะส่งผลกับรถจักรยานยนต์บางกลุ่มที่มีขนาดเครื่องยนต์มากกว่า 125 ซีซี ทำให้มีการปรับราคาขึ้นพอสมควร แต่ก็เป็นจำนวนรถจักรยานยนต์ส่วนน้อยของตลาด ทำให้แม้จะเกิดการเร่งซื้อไปบางส่วนก่อนหน้านี้ตั้งแต่ปลายปี 2562 เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการขึ้นราคา แต่ทิศทางยอดขายรถจักรยานยนต์ทั้งตลาดยังขึ้นอยู่กับรถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่ที่มีขนาดเครื่องยนต์ต่ำกว่า 125 ซีซี ที่ยังต้องเผชิญความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจอยู่

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเรื่องการอนุมัติปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้นของสถาบันการเงินจากภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังสูง ทำให้ในปี 2562 นี้ ยอดขายรถจักรยานยนต์มีโอกาสหดตัวดังกล่าว

ทั้งนี้ หากแยกพิจารณาแนวโน้มยอดขายปี 2562 ตามประเภทของรถจักรยานยนต์ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองถึงทิศทางตลาดแตกต่างกันไปตามประเภทรถดังต่อไปนี้

ยอดขายจักรยานยนต์วูบ ศก.ตกรายได้ลด

รถจักรยานยนต์ขนาดเล็กเครื่องยนต์ไม่เกิน 125 ซีซี ราคาขายเฉลี่ย 50,000 บาท สำหรับเจาะตลาดผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่มีรายได้น้อย ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดกว่า 80% นั้น มีแนวโน้มที่จะหดตัวลงต่อเนื่องในปีนี้กว่า 4% ไปสู่ยอดขายประมาณ 1,368,000 คัน ซึ่งการหดตัวของกลุ่มนี้มีผลต่อทิศทางตลาดสูงที่สุด

รถจักรยานยนต์ขนาดกลางเครื่องยนต์ระหว่าง 126 ถึง 250 ซีซี ราคาขายเฉลี่ย 90,000 บาท และมีส่วนแบ่งตลาดประมาณร้อยละ 17 โดยเป็นประเภทรถจักรยานยนต์ที่เจาะตลาดกลุ่มคนทำงานที่มีรายได้เข้ามาต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทผู้ให้สินเชื่อจะปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มผู้บริโภคนี้ง่ายกว่ากลุ่มแรก และในช่วงปีที่ผ่านมาก็ได้มีการเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการตลาดมากขึ้น ส่งผลให้ในปี 2562 นี้ น่าจะทำยอดขายได้ประมาณ 315,000 คัน ขยายตัวขึ้นประมาณ 7% จากปีก่อน

สำหรับตลาด Big Bike ซึ่งมีขนาดเครื่องยนต์มากกว่า 250 ซีซี ราคาขายมีหลายระดับตั้งแต่ 150,000 ถึงมากกว่า 1,000,000 บาท แม้จะมีส่วนแบ่งตลาดเพียงร้อยละ 3 แต่เป็นตลาดที่ผู้บริโภคมีศักยภาพซื้อสำหรับตอบสนองการทำกิจกรรมต่างๆ และผู้บริโภคกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจน้อย รวมถึงมีการเปิดตัว Big Bike รุ่นใหม่ๆหลังมีการลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา ทำให้ในปีนี้มีโอกาสทำยอดขายได้ประมาณ 72,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 14%