เปิดกว้างขายหุ้นทหารไทย

ปลัดคลังไม่เกี่ยงพันธมิตร ได้หมดทั้งไทยและต่างชาติ ด้าน "ปิติ" เสริมแกร่งตั้งสำรองพุ่ง

นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ ธนาคารทหารไทย เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างศึกษาการขายหุ้นธนาคารทหารไทยมี เป้าหมายต้องการเพิ่มความเข้มแข็ง โดยเป็นต่างชาติหรือไทยก็ได้ ขอเพียงให้สถาบันการเงินที่จะควบรวมด้วยต้องเข้มแข็ง

อย่างไรก็ดี แนวคิดการขายหุ้นธนาคารที่คลังถืออยู่นั้น คิดเฉพาะธนาคารทหารไทยแห่งเดียว และคงไม่ขาย ตอนนี้เพราะจะขาดทุน โดยต้นทุน ของคลังอยู่ที่หุ้นละ 3.80 บาท ส่วนข่าวให้ทหารไทยควบรวมกับกรุงไทยนั้นเป็นเรื่องที่ "ไม่ตรง"

อย่างไรก็ตาม มีโอกาสที่ราคาหุ้นจะเพิ่มขึ้นอีก เพราะผลดำเนินการเติบโตต่อเนื่อง หากในอนาคตราคาดี จะพิจารณาทิศทางอีกครั้ง เป็นไปได้ทั้งการขายหุ้นออกหรือถือเพิ่ม ขึ้นอยู่กับนโยบายในขณะนั้น ส่วนมาตรการส่งเสริมการควบรวมธนาคารเป็นสิทธิให้เฉพาะธนาคารไทยเพราะธนาคารไทยจำเป็นต้องแข็งแรงขึ้นเพื่อรองรับการแข่งขันในเวทีโลก

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย กล่าวถึงผลประกอบการไตรมาส 3 ว่า ได้นำเงินจากการขายหุ้น บลจ.ทหารไทย ส่วนหนึ่งไปตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มเพื่อรองรับ IFRS9 ทำให้ 9 เดือนมีการตั้งสำรองกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท

ด้านธนาคารได้จัดชั้นหนี้ใหม่รับ IFRS9 โดยหนี้ที่จับตามองเป็นพิเศษ (SM) จัดชั้นลงเป็นเอ็นพีแอล และปรับหนี้ปกติบางส่วนมาเป็น SM เชื่อว่า หากใช้ IFRS9 ธนาคารจะมีภาระตั้งสำรองน้อยลงหรือไม่มีเลย

สำหรับสินเชื่อบ้าน 9 เดือนเติบโตสูงถึง 13% เป็นการเติบโตบนพื้นฐานที่แตะเบรกแล้ว ไม่เช่นนั้นอาจเติบโตถึง 20% ซึ่งสินเชื่อบ้านไม่ควรโตเกิน 2 หลัก กลุ่มที่แตะเบรก เช่น บ้านสัญญาที่ 2 ผู้มีรายได้น้อย เงินดาวน์ต่ำ บ้านราคาแพง

ทั้งนี้ ส่วนสินเชื่อเอสเอ็มอีที่หดตัว 6.6% มาจากการคืนหนี้มากกว่าปล่อยใหม่ ซึ่งจะเติบโตได้ต้องปล่อยใหม่ 2,500 ล้านบาท/เดือน โดยเป้าหมายสินเชื่อรวม 8% ในปีนี้คงเป็นไปได้ยาก