เจ้าหนี้ยังอุ้ม'เอสเอสไอ'ต่อ

ธนาคารเจ้าหนี้อุ้ม สหวิริยาฯ เล็งขายทิ้งโรงงานเหล็กที่อังกฤษ มั่นใจไปรอด

นายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า การแก้ไขหนี้เสียของบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (เอสเอสไอ) ธนาคารเจ้าหนี้ได้หารือกันแล้ว มั่นใจว่าหากขายทิ้งโรงงานเหล็กที่อังกฤษของบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี ยูเค ที่เอสเอสไอไปค้ำประกันหนี้ไว้แล้วภาระหนี้ของเอสเอสไอ จะลดลงมาก

"ยิ่งขายสินทรัพย์ได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี ธนาคารดูแผนการเงินของเอสเอสไอแล้วเห็นว่ายังสามารถที่จะทำธุรกิจต่อไปได้ หากไม่ทำธุรกิจต่อจะขายทิ้ง ก็มีนักลงทุนญี่ปุ่นและอีกหลายรายสนใจจะซื้อกิจการ แต่ในขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นต้องทำขนาดนั้น หากปรับแผนลดภาระหนี้ที่ค้ำประกันไปได้บริษัทจะมีฐานะดีขึ้น และหากยังไม่ไหวก็อาจจะต้องขอให้มีการเพิ่มทุน" นายวรภัค กล่าว

นายวรภัค กล่าวว่า ธนาคารเจ้าหนี้ทั้งหมดพยายามช่วยเหลือเอสเอสไอ เมื่อลูกค้าเกิดปัญหาธนาคารจะถาม 3 ข้อ คือ ธุรกิจของลูกค้าอยู่ในอุตสาหกรรมที่ยังมีอนาคตหรือไม่ โครงสร้างหนี้ที่มีอยู่หากปรับโครงสร้างหนี้แล้วลูกค้าไปรอดหรือไม่ และโครงสร้างการบริหารจัดการของลูกหนี้หากปรับโครงสร้างแล้วยังบริหารงานต่อไปได้หรือไม่

"กรณีของเอสเอสไอยังสามารถตอบคำถามทั้งหมดของเจ้าหนี้ได้ บริษัทยังทำธุรกิจต่อไปได้ ยังสามารถฟื้นฟูได้ แต่ในช่วงนี้เป็นช่วงที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัวไม่ว่าใครก็แย่ทั้งนั้น" นายวรภัค กล่าว

แหล่งข่าวจากธนาคารเจ้าหนี้ เปิดเผยว่า จากการเดินทางไปหารือกับที่ปรึกษากฎหมาย เพื่อหาลู่ทางที่จะขายกิจการของสหวิริยาสตีล อินดัสตรี ยูเคทิ้ง ซึ่งราคาขายยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะได้ราคาดีหรือไม่ แต่เชื่อว่าอย่างไรก็จะขาดทุน เพราะขายในช่วงเศรษฐกิจโลกไม่ดี

ทั้งนี้ ธนาคารเจ้าหนี้รายใหญ่ 3 ราย มีหนี้รวม 2 หมื่นกว่าล้านบาท เห็นตรงกันว่า ธุรกิจของเอสเอสไอในประเทศไทยยังไปได้ จึงให้เร่งขายสินทรัพย์และนำเงินมาชำระหนี้ ส่วนที่ขาดก็จะต้องหาสินทรัพย์อื่นมาดูว่ามีอะไรที่จะตีทรัพย์ชำระหนี้ได้อีก และมีความเป็นไปได้สูงว่าเอสเอสไออาจจะต้องเพิ่มทุนเพื่อให้สัดส่วนทางการเงินดีขึ้น

ภาพประกอบข่าว