ธปท.เผยไตรมาสแรกปี57ศก.ยังหดตัว

ธปท.เผยเศรษฐกิจไทยเดือนมี.ค.และไตรมาสแรกของปีนี้หดตัวต่อเนื่อง ตามกำลังซื้อในประเทศที่ลดลง

นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวย สำนักเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทสไทย (ธปท.) กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาหดตัวเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนก่อน ตามการส่งออกสินค้าที่ฟื้นตัวช้าและได้รับผลกระทบชั่วคราวจากการปิดซ่อมโรงงานในบางอุตสาหกรรม บวกกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกชะลอตัว ทำให้การส่งออกสินค้าเดือนนี้มีมูลค่า 19,766 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 2.7% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน แต่ยังมองว่าการส่งออกสินค้าในบางอุตสาหกรรมมีทิศทางปรับดีขึ้นตามความต้องการในต่างประเทศที่ฟื้นตัว อาทิ การส่งออกยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ เป็นต้น

ขณะที่ การใช้จ่ายภายในประเทศที่ค่อนข้างทรงตัว โดยเดือนมี.ค.ขยายตัว 0.3% ดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวติดลบ 1.3% แต่หากเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนการบริโภคยังหดตัวตามการใช้จ่ายสินค้าคงทน โดยกำลังซื้อของครัวเรือนทั้งในและนอกภาคเกษตรมีแนวโน้มลดลง ส่งผลให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมยังคงหดตัว ส่วนภาคการท่องเที่ยวเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากความกังวลของนักท่องเที่ยวต่างประเทศต่อสถานการณ์การเมืองผ่อนคลายลงบ้างหลังการยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจโดยรวมยังดีการว่างนต่ำหนี้ต่างประเทศน้อย เงินเฟ้อแม้จะปรับสูงขึ้นบ้างแต่ยังเชื่อว่าจะอยู่ในกรอบเป้าหมาย

นายดอน กล่าวต่อว่า สำหรับภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 1 ปีนี้มีแนวโน้มหดตัวจากไตรมาสก่อน จากสถานการณ์ทางการเมืองที่ยืดเยื้อทำให้ครัวเรือนและธุรกิจระมัดระวังในการบริโภคและลงทุน การใช้จ่ายภาครัฐทำได้จำกัดโดยเฉพาะงบลงทุน บวกกับภาคการท่องเที่ยวที่หดตัวมากขึ้น ขณะที่การส่งออกสินค้าที่มีทิศทางปรับดีขึ้นไม่สามารถชดเชยการหดตัวดังกล่าวได้ ส่งผลให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัว อย่างไรก็ดีเสถียรภาพเศรษฐกิจโดยรวมยังดี การว่างงานอยู่ในระดับต่ำ อัตราเงินเฟ้อปรับสูงขึ้นบ้างแต่ยังน่าจะอยู่ในกรอบเป้าหมาย ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล จากการนำเข้าสินค้าที่หดตัว

“เศรษฐกิจในปีนี้ไตรมาสแรกน่าจะหดตัวต่ำสุดแล้ว คาดว่าในไตรมาส 2และไตรมาส 3 น่าจะค่อยๆปรับดีขึ้น และน่าจะฟื้นตัวได้ในไตรมาส 4 แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองด้วย เพราะจากผลสำรวจของธปท.พบว่าความไม่แน่นอนทางการเมืองเป็นข้อจำกัดสำคัญและส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจ สอดคล้องกับความต้องการสินเชื่อโดยเฉพาะสินเชื่อในภาคธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีแนวโน้มลดลง ขระที่การส่งออกยังไม่แน่นจะได้ตามเป้าที่ 4.5% หรอืไม่ หลังไตรมาสแรกโตติดลบ เพราะถ้าจะได้ตามเป้า 9 เดือนที่เหลือต้องส่งออกให้มีมูลค่าเฉลี่ย 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐทุกเดือน” นายดอนกล่าว.