posttoday

บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดตัวกองทุนหุ้นยั่งยืนทั่วโลก

24 พฤศจิกายน 2563

บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดตัวกองทุน SCBGEESG ทางเลือกการลงทุนในหุ้นยั่งยืนทั่วโลก

นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดตัวกองทุนใหม่ที่เน้นลงทุนในบริษัทที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนแบบยั่งยืน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Global Sustainable Equity (SCB Global Sustainable Equity Fund ; SCBGEESG) มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้น ESG และมีปัจจัยพื้นฐานดีที่มีโอกาสเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยคาดหวังผลตอบแทนในระยะยาวที่ดีกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วไป เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่นักลงทุนและสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น โดยจะเริ่มเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 23 – 27 พฤศจิกายน 2563 นี้ ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท

สำหรับการลงทุนแบบ ESG เป็นการลงทุนที่เน้นลงทุนในบริษัทที่คำนึงถึงความรับผิดชอบทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ Environment (สิ่งแวดล้อม) คือ การที่บริษัทมีนโยบายและกระบวนการทำงานในองค์กรเพื่อจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน และใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจของบริษัท Social (สังคม) คือ การที่บริษัทมีนโยบายการบริหารทรัพยากรบุคคลอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมกัน มีการส่งเสริมและพัฒนาพนักงานอย่างต่อเนื่องและมีคุณภาพ รวมทั้งเปิดโอกาสให้ชุมชนที่บริษัทมีความเกี่ยวข้องให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน และ Governance (ธรรมาภิบาล) คือ การที่บริษัทมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี ดำเนินงานอย่างโปร่งใส มีแนวทางการบริหารความเสี่ยงที่ชัดเจนต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชั่น ตลอดจนดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงการจ่ายภาษีให้แก่ภาครัฐอย่างโปร่งใส และจากจุดเริ่มต้นจากสภาพแวดล้อมและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป นำโดย 4 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ทรัพยากรที่มีอย่างจำกัด, สภาพภูมิอากาศแปรปรวน, จำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จึงนำไปสู่แนวคิดการลงทุนอย่างยั่งยืน

โดยกองทุนนี้มีกลยุทธ์บริหารเชิงรุก (Active management) มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว ได้แก่ Janus Henderson Horizon – Global Sustainable Equity Fund (กองทุนหลัก) ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน กองทุนหลักจดทะเบียนภายใต้กฎหมายของประเทศลักเซมเบิร์ก (SICAV) และอยู่ภายใต้ UCITS โดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างการเติบโตของเงินลงทุนในระยะยาว ซึ่งจะลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทที่มีผลิตภัณฑ์หรือการให้บริการที่มีส่วนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมหรือสังคมในเชิงบวก โดยกองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ตามความเหมาะสมสำหรับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการลงทุน

ปัจจุบันกองทุนหลัก Janus Henderson Horizon – Global Sustainable Equity Fund anus Global Life Sciences Fund เน้นพอร์ตการลงทุนที่เป็น high-conviction ในบริษัทที่มีความยั่งยืนและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมประกอบไปด้วยหุ้นทั่วโลกประมาณ 50 – 70 ตัว รวมถึงโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมในการลงทุนอย่างยั่งยืนเพื่อความโปร่งใสและวัดผลได้ โดยกองทุนจะเฟ้นหาโอกาสในการลงทุน ด้วย 10 ธีมการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม และสังคม อาทิเช่น พลังงานสะอาด, การขนส่ง, การจัดการน้ำ, การพัฒนาความรู้และเทคโนโลยี, ด้านสุขภาพ, ด้านความปลอดภัย และคุณภาพชีวิต เป็นต้น ซึ่งกองทุนบริหารโดยทีมที่มีประสบการณ์กว่า 30 ปีในการลงทุนอย่างยั่งยืนและเป็นผู้นำในด้านนี้

ทั้งนี้ ทีมผู้จัดการกองทุนเชื่อมั่นว่าบริษัทที่มี ESG ที่ดี จะสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยจะทำการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเพื่อให้ความสำคัญต่อบริษัทที่มีการพิจารณาต่อ 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1) Planet โดยอย่างน้อย 50% ของรายได้ต้องเกี่ยวข้องกับธีมการลงทุนอย่างยั่งยืน 2) People บริษัทต้องมีส่วนร่วมพัฒนาต่อชุมชนและสังคม และ 3) Profit บริษัทต้องมีโอกาสในการสร้างรายได้ในระยะยาว มีความมั่นคงทางการเงิน และมีการสนับสนุนให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ สำหรับกองทุนหลักมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือน อยู่ที่ 12.62%, 6 เดือน อยู่ที่ 38.92%, 1 ปี อยู่ที่ 31.07% และตั้งแต่ต้นปี อยู่ที่ 18.67% (ที่มา: Janus Henderson ณ วันที่ 30 ก.ย. 2563)

“สำหรับจุดเด่นของกองทุน SCBGEESG คือ เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นยั่งยืนทั่วโลก มีกลยุทธ์การลงทุนแบบวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเชิงลึกของหุ้นรายตัวทั้งด้านความยั่งยืนและความมั่นคงทางการเงิน โดยกองทุนลงทุนกระจายตัวในหลายอุตสาหกรรม ทั้งบริษัทขนาดใหญ่ที่มีความมั่นคงทางธุรกิจ และรวมถึงบริษัทขนาดกลางที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าการพัฒนาสู่ความยั่งยืน นวัตกรรม และการเติบโดยในระยะยาว มีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกัน เพราะฉะนั้น แนวคิดการลงทุนแบบ ESG และกระบวนการลงทุนอย่างเป็นระบบ จะนำไปสู่การสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนในระยะยาวและส่งผลดีต่อโลกของเราในอนาคตด้วย” นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว