posttoday

บลจ.กรุงไทย เปิดตัว"กองทุนเปิดกรุงไทย ก่อการดี" ให้เงินทำดีแทนคุณ

22 ตุลาคม 2562

กระจายลงทุนไปตามดัชนีผลตอบแทนรวม อีเอสจี ไทยพัฒน์ ที่มีการลงทุน 52 ตัว

กระจายลงทุนไปตามดัชนีผลตอบแทนรวม อีเอสจี ไทยพัฒน์ ที่มีการลงทุน 52 ตัว

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กรุงไทย (KTAM) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการสานต่อเจตนารมณ์การสร้างสังคมยั่งยืนอจึงได้ออกกองทุน จำนวน 2 กองทุน คือ กองทุนเปิดกรุงไทย ก่อการดี (KT-ESG) และ กองทุนเปิดกรุงไทย ก่อการดี เพื่อการเลี้ยงชีพ (KT-ESGRMF)

ซึ่งนับได้ว่าเป็นอีกขั้นหนึ่งของการพัฒนากองทุนโดยเป็นการต่อยอดและเสนอทางเลือกให้นักลงทุนเพิ่มมากขึ้น จากแนวทางการลงทุนของบริษัทที่มีมาโดยตลอด ที่ไม่ได้มองเพียงการลงทุนในหลักทรัพย์หรือบริษัทที่มีผลประกอบการดีเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นการลงทุนในบริษัทที่มีนโยบายการประกอบธุรกิจแบบยั่งยืนและธรรมาภิบาลที่ดีแล้ว

กองทุนที่นำมาเสนอใหม่ยังเพิ่มความเข้มข้นเพิ่มขึ้นทั้งในเรื่อง สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG: Environmental, Social and Governance) อีกด้วย โดยกองทุนนี้ จะใช้กลยุทธ์แบบ Passive เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีผลตอบแทนรวม อีเอสจี ไทยพัฒน์ (Thaipat ESG Index (TR))

 

บลจ.กรุงไทย เปิดตัว"กองทุนเปิดกรุงไทย ก่อการดี" ให้เงินทำดีแทนคุณ

สำหรับดัชนี อีเอสจี ไทยพัฒน์นั้นจะใช้วิธีการพิจารณาคัดเลือกหลักทรัพย์ จากปัจจัยผลการดำเนินงานของบริษัทที่ต้องมีกำไรติดต่อกันสองรอบปีบัญชีล่าสุด รวมถึงผ่านการคัดกรองเรื่อง คุณสมบัติ ESG จาก สถาบันไทยพัฒน์ ที่จะต้องปลอดจากการกระทำความผิด โดยที่บริษัทหรือคณะกรรมการหรือผู้บริหารระดับสูงของบริษัทต้องไม่ถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษหรือเปรียบเทียบปรับในรอบปีประเมิน รวมถึงมีการกระจายการถือหุ้นโดยผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free Float) ที่เป็นธรรมและเหมาะสมเป็นไปตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนดอีกด้วย จากทั้งหมดนี้จะได้ กลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 หลังจากนั้นดัชนีจะทำการคัดกรองสภาพคล่องและจัดทำกลยุทธ์แบบ equal weighted index อีกครั้งและให้ทางS&P Dow Jones indices เป็นผู้คำนวนและเผยแพร่ให้นักลงทุนทราบ

กองทุนเปิดกรุงไทย ก่อการดี (KT-ESG) จะทำการเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ในวันที่ 21-29 ตุลาคม 2562 ที่จะถึงนี้ เป็นกองทุนรวมตราสารทุนแบบ Passive มีความเสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูงที่ระดับ 6 โดยมีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารแห่งทุนเพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับดัชนีผลตอบแทนรวม อีเอสจี ไทยพัฒน์ (Thaipat ESG Index (TR))

รวมถึง กองทุนเปิดกรุงไทย ก่อการดี เพื่อการเลี้ยงชีพ(KT-ESGRMF) เป็นกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพแบบ Passive ที่มีนโยบายเช่นเดียวกันกับกองทุนเปิดกรุงไทย ก่อการดี (KT-ESG) มีความเสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูงที่ระดับ 6 เช่นเดียวกัน แต่จะเริ่มเปิดเสนอขายครั้งแรกในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2562 เป็นต้นไป

นางชวินดา กล่าวต่อว่า การเปิดตัวกองทุน ESG ทั้ง 2 กองทุนนี้ เป็นการตอบโจทย์ให้แก่นักลงทุนที่ต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะยาวพร้อมกับการมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อสังคมอย่างยั่งยืนได้ ซึ่ง ESG นับได้ว่าเป็นกระแสที่มาแรงในธุรกิจปัจจุบันเพราะหลากหลายองค์กรทั่วโลกได้หันมาตื่นตัวและให้ความสนใจในการลงทุนแบบ Sustainable Success มากขึ้น นี่จึงถือเป็นโอกาสอันดีที่จะแสดงเจตจำนงค์ว่าบลจ.กรุงไทย หันมาให้ความสำคัญกับการลงทุนแบบ ESG อย่างเต็มตัว และอาจถือได้ว่าเป็นหัวใจหลักในกลยุทธ์การลงทุนในอนาคตด้วยเช่นกัน

บลจ.กรุงไทย ได้กระจายการลงทุนไปตามดัชนีผลตอบแทนรวม อีเอสจี ไทยพัฒน์ ที่มีการลงทุน 52 ตัว โดยใช้กลยุทธ์แบบ equal weighted ทั้งนี้ ผลตอบแทน 1 ปีย้อนหลัง ถึงวันที่ 18 ก.ย.62 TRI มีอัตราผลตอบแทน 10.2% ชนะดัชนี SET Index ที่มีผลตอบแทน 8.6% ส่วนในช่วง 3 ปีย้อนหลัง TRI มีผลตอบแทนเฉลี่ย 7.9% /ปี SET Index เฉลี่ย 6.6% /ปี ทั้งนี้ มีน้ำหนักการลงทุนกลุ่มการเงิน 17% กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค 16% และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์