posttoday

3 ขาเพื่อความสำเร็จด้านการเงิน

25 สิงหาคม 2563

คอลัมน์ คู่คิดนักลงทุน โดย...บรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการอาวุโส กิจการค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง

สวัสดีครับเพื่อน ๆ นักลงทุน เชื่อว่าคนเราทุก ๆ คน ล้วนแล้วแต่มีความปรารถนาที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต ซึ่งก็ประกอบไปด้วยหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นทั้งด้านการงาน ด้านสังคม ด้านชีวิตครอบครัว หรือแม้แต่ด้านสุขภาพ แต่ในการที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตในแต่ละด้าน ล้วนแล้วแต่มีเรื่องที่เกี่ยวกับ “เงิน” เข้ามาเสมอ จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า จะประสบความสำเร็จในชีวิตในแต่ละด้านได้ มันมีเรื่องคาบเกี่ยวกับด้านการเงินทั้งนั้น เพราะฉะนั้นการประสบความสำเร็จทางด้านการเงินจึงเป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าด้านอื่น ๆ ของชีวิตเลย แต่การที่จะ ประสบความสำเร็จทางด้านการเงินนั้น ไม่ได้หมายความว่าท่านจะต้องเป็นเศรษฐีระดับร้อยล้านพันล้านถึงจะเรียกว่า ประสบความสำเร็จทางการเงินในทางพื้นฐานแล้วความสำเร็จทางการเงิน คือ ในชีวิตเรามีความสามารถที่จะมี “รายได้ที่หา หรือ เกิดขึ้นด้วยตนเอง มากกว่ารายจ่าย ในตลอดช่วงชีวิต” คือ ไม่มีติด ไม่มีขัด ทั้งในปัจจุบัน และในอนาคต ฟังดูเรียบง่าย แต่เป็นเรื่องยาก และยังเป็นปัญหาสำหรับหลายคน วันนี้เลยมาคุยว่า “3 ขาเพื่อความสำเร็จทางด้านการเงินมีอะไรบ้าง”

ขาที่ 1 “รายได้” เชื่อว่าทุกคนมีช่องทางการหารายได้อยู่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เรียกกันว่า งานประจำ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละท่านหลัก ๆ ก็เกิดจาก เรียนรู้อะไรมา มีประสบการณ์อย่างไร ก็มักจะกลายมาเป็นงานประจำของท่าน ส่วนความก้าวหน้าของอาชีพก็ขึ้นอยู่กับความพากเพียรในการทำงาน และเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้รายได้เพิ่มขึ้นตลอดช่วงชีวิตการทำงาน แต่รายได้ทั้งหมดในชีวิตไม่ควรผูกกับรายได้จากงานประจำเท่านั้นควรหารายได้แหล่งที่สองไว้เพิ่มเติมให้กับรายได้รวมของเรา ซึ่งในปัจจุบันโลกสื่อสังคมออนไลน์ ช่วยอำนวยในการเสนอสินค้า และบริการทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ก็เป็นอีกทางช่วยที่เราไม่ต้องผูกรายได้ทั้งหมดกับรายได้ประจำเท่านั้น

โดยรายได้แหล่งที่สอง นอกจากจะมาจากความรู้ และประสบการณ์แล้ว อีกตัวหนึ่งที่เพิ่มให้หารายได้แหล่งที่สอง คือ “ความชอบ หรือ Passion” ซึ่งถ้าเราทำได้ดีพอ รายได้แหล่งที่สองอันนี้อาจจะใหญ่กว่างานประจำก็เป็นได้ การลงทุนเองก็เป็นรายได้แหล่งที่สองได้ โดยนักลงทุนชื่อดังอย่าง “Warren Buffet” เองก็ได้กล่าวว่า “อย่าพึ่งพิงรายได้จากเพียงแหล่งเดียว สร้างการลงทุน เพื่อเป็นรายได้แหล่งที่สอง” การสร้างการลงทุนให้เป็นรายได้แหล่งที่สองจึงมีความสำคัญ และการลงทุนนั้นมีหลากหลาย ทั้งประเภทของสินทรัพย์ที่จะลงทุน หรือวิธีการลงทุนที่จะลงทุนเอง หรือจะลงทุนผ่านกองทุนรวม หลักทรัพย์บัวหลวง เราพยายามอย่างต่อเนื่องในการให้ความรู้กับเพื่อน ๆ นักลงทุน เพื่อที่จะเป็นนักลงทุนคุณภาพสามารถสรรสร้างเงินลงทุนให้เป็นรายได้แหล่งที่สองเป็น passive income ให้กับเพื่อน ๆ นักลงทุนได้ในระยะยาว เพราะฉะนั้นในยุคปัจจุบันความรู้ทางด้านการเงิน การลงทุน มีความสำคัญไม่ต่างจาก ความรู้ทางด้านวิชาชีพเลย

ขาที่ 2 “ค่าใช้จ่าย” ทุกก้าวย่างของชีวิตล้วนแล้วแต่มีต้นทุน ต้นทุน คือ ทรัพยากรที่เราต้องจ่าย ซึ่งในยุคปัจจุบันทรัพยากรที่เราจ่ายที่สำคัญ คือ “เงิน” ไม่ว่าจะเป็น เกิด แก่ เจ็บ หรือแม้แต่กระทั่งตาย ก็ล้วนแล้วแต่ต้องใช้เงินทั้งนั้น และค่าใช้จ่ายอีกตัวที่สำคัญ คือ ภาษี ซึ่งก็เป็นค่าใช้จ่ายที่แฝงตัวอยู่กับเราตลอดเวลา ตั้งแต่การ กิน ใช้ ก็ต้องจ่าย VAT ซื้อ ขาย หรือมีสินทรัพย์ อย่างที่ดินก็เสียภาษี มีรายได้ มีกำไร ก็ต้องมีภาษีเข้ามาเกี่ยวข้อง จริงอย่างที่ฝรั่งเค้าว่า “คนเราหนีไม่พ้นอยู่ 2 อย่าง คือ ความตายและภาษี” ในเรื่องค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับ life style ของแต่ละคน แต่ที่อยากจะฝากไว้ คือ ค่าใช้จ่ายสามารถบริหารจัดการได้ ซึ่งก็ต้องเริ่มจาก จด จัด และลำดับความสำคัญ จด คือ ดูว่าค่าใช้จ่ายที่เรามีในแต่ละเดือนแต่ละปีมีอะไรบ้าง แล้วนำมาจัดหมวดหมู่ว่าเป็นค่าใช้จ่ายประจำ หรือไม่ประจำ จำเป็น หรือ ฟุ่มเฟือย เมื่อเราจัดประเภทแล้ว เราจึงมาลำดับความสำคัญมากไปจนถึงน้อย เพื่อบริหารจัดการค่าใช้จ่ายส่วนบุคคลของเราได้ สิ่งใดสำคัญน้อย แต่เราไปจ่ายมากก็สามารถตัดหรือลดลงมาได้ ส่วนเรื่องภาษี เราสามารถบริหารจัดการได้ เช่น หาค่าใช้จ่ายที่สามารถลดหย่อน หรือเงินลงทุนที่สามารถเอามาหักเป็นค่าใช้จ่าย เพื่อลดภาษีก็เป็นวิธีบริหารภาษีได้ หรืออย่างนักลงทุนการขอเครดิตภาษีเงินปันผล หรือภาษีหัก ณ ที่จ่ายทั้งเงินปันผลและดอกเบี้ย หลายท่านอาจจะปล่อยผ่าน แต่ถ้าเรามาลองคำนวณดู ถ้าฐานภาษีโดยรวมเราไม่สูงมาก คำนวณอาจจะคุ้มค่า และได้คืนภาษีจากส่วนนี้ได้

ขาที่ 3 “เงินออม” เมื่อเรามีรายได้ ที่มากกว่าค่าใช้จ่าย ก็จะกลายเป็นเงินออม ในตัวเงินออมนี้เองจะเป็นตัวสร้าง รายได้แหล่งที่สองให้กับเราได้ สามารถสร้างเป็น Passive income ให้กับเพื่อน ๆ นักลงทุนได้ เพียงแต่เราต้องมีการศึกษา หาความรู้เพิ่มเติมในการลงทุน และเลือกลงทุนให้ถูกจริตกับตัวตนของเรา ซึ่งก็มีหลายคนครับที่มีเงินออมมาก แต่ขาดการจัดการอยู่ในออมทรัพย์เพียงอย่างเดียว ถ้าเป็นสมัยก่อนเงินฝากให้ผลตอบแทนที่ดีก็พอไหวครับ แต่ผลตอบแทนในปัจจุบันน้อยมาก มาพ.ศ.นี้ดอกเบี้ยเงินฝากต่ำ 1% และการคุ้มครองเงินฝากที่ลดจำนวนเงิน ที่คุ้มครองลงมา การกินดอกเบี้ยเงินฝากไม่เพียงพอครับ ทำให้เป็นหน้าที่ของผู้มีเงินลงทุนต้องแสวงหาความรู้และช่องทางการลงทุนให้เหมาะสมกับตัวท่านเอง โดยเงินออมที่จะกลายเป็นเงินลงทุนที่ดีควรจะอาศัยเวลาไม่ใช่มาแล้วจะสำเร็จในเร็ววัน ความเหมาะสมของผลตอบแทนต่ำไปก็ไม่ดี แต่จะเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับความเข้าใจความสามารถในการรับความเสี่ยงของท่าน และอีกส่วนที่สำคัญ คือ การกระจายความเสี่ยง ซึ่งปัจจุบันสินทรัพย์เสียงเราไม่ควรรู้จำกัดแค่คำว่า “หุ้นไทย” เพียงเท่านั้น เราควรกระจายไปสินทรัพย์อื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น ทองคำ, อสังหาริมทรัพย์, หุ้นต่างประเทศ โดยก็ต้องให้สมดุลระหว่าง ความรู้ ความเสี่ยง และผลตอบแทน และต้องสร้างและเพิ่มเงินออมต้องนี้ให้ต่อเนื่องเพิ่มเติมอย่างสม่ำเสมอ

ถ้านักลงทุนสามารถจัดการทั้ง 3 ขานี้ได้แล้ว เชื่อว่าความประสบความสำเร็จทางด้านการเงินจะเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเราได้มากขึ้น และมีการออมการลงทุนประเภทหนึ่งที่ลงทุนไปแล้ว ได้ครบทั้ง 3 ขา คือ กองทุน Super Saving Fund หรือ SSF ที่มาทดแทน LTF จัดตั้งมาเพื่อส่งเสริมการออมในระยะยาว โดยขาที่ 1. เมื่อเราลงทุนก็เป็นการสร้างหรือเพิ่มเงินออม ขาที่ 2. ยังช่วยให้เราเอาเงินออมมาหักเป็นค่าใช้จ่ายลดหย่อนภาษีได้ และ ขาที่ 3. เมื่อเราลงทุนได้ในระยะยาว กองทุนนี้สามารถสร้างผลตอบแทน เปรียบเป็นการสร้างรายได้แหล่งที่สองให้กับเราได้ในอนาคตด้วย โดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บางกอกแคปปิตอล จำกัด หรือ BCAP Asset ได้ออกกองทุน BCAP Global Wealth SSF หรือ BCAP-GW SSF (IPO วันที่ 7-14 สิงหาคม 2563) โดยกองทุนนี้มีจุดเด่นกระจายสินทรัพย์ลงทุนทั่วโลก ทั้งหุ้นตราสารหนี้ สินค้าโภคภัณฑ์อย่างทองคำ และมีระดับสินทรัพย์เสี่ยงให้เลือกถึง 5 ระดับ ทำให้ง่ายตอบโจทย์นักลงทุนที่จะวางเงินให้ตรงกับระดับความเสี่ยงที่ต้องการ จึงเปรียบเสมือน เพิ่มเงินออม ลดค่าใช้จ่าย และสร้างรายได้ ครบ 3 ขา และเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้นักลงทุนสำเร็จทางด้านการเงินได้ครับ