สุมาอี้เหนือกว่าขงเบ้งตรงไหน

ขงเบ้งเป็นคนมีอุดมการณ์ ต้องการกอบกู้ราชวงศ์ฮั่น ให้ฟื้นคืนกลับมา แม้กระทั่งตอนที่เล่าปี่ก่อนเสียชีวิตจะยกตำแหน่งให้ขงเบ้งรับเป็นผู้ปกครองแผ่นดินจ๊กก๊กต่อไปแทนเล่าเสี้ยน แต่ขงเบ้งก็ปฏิเสธ

เมื่อทำการศึก ขงเบ้งไม่อาจชนะสุมาอี้ได้โดยเด็ดขาด ทำให้ขงเบ้งเกิดความเครียด ยิ่งเครียด ยิ่งสุขภาพทรุดโทรม

ขงเบ้งเป็นกังวลกับอนาคตของจ๊กก๊กมาก ถ้าตนเองไม่อยู่ จึงต้องฝากฝังทุกอย่างไว้กับเกียงอุย เพื่อให้มั่นใจว่าหลังจากที่ขงเบ้งไม่อยู่แล้ว จะตัองมีเสนาธิการใหญ่ที่ดูแลก๊กของเล่าปี่ต่อไปให้ได้

อุดมการณ์ของขงเบ้งกลับกลายเป็นสิ่งที่ทำร้ายขงเบ้งเอง

ต่างจากสุมาอี้ ที่โดยส่วนตัว ไม่ได้มีอุดมการณ์ที่จะทำเพื่อวุยก๊ก และไม่ได้จงรักภักดีกับโจโฉ ในแบบที่ขงเบ้งจงรักภักดีกับเล่าปี่

สุมาอี้ทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง ในตอนแรก ทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย เมื่อขุนนางเห็นว่า สุมาอี้อาจเป็นภัยเนื่องจากมีความเฉลียวฉลาดมากเกินไป สุมาอี้ทำทุกอย่างเพื่อให้ตนเองมีชีวิตรอดต่อไปให้ได้

เมื่อสุมาอี้ไม่ได้แบกอุดมการณ์อันหนักหน่วงเอาไว้ เขาจึงไม่ได้มีความเครียดแบบขงเบ้ง สุมาอี้เสียทีในการศึกให้กับขงเบ้งหลายครั้ง แต่ความพ่ายแพ้แต่ละครั้ง ไม่เคยทำอะไรกับสภาวะจิตใจของสุมาอี้ได้

สุมาอี้ยอมรับความพ่ายแพ้ และปรับกลยุทธ์เสมอ เพื่อรองรับศึกครั้งต่อไป

สุมาอี้ ไม่มีอัตตา และเป็นคนที่ แพ้เป็น

====================================

เมื่อเราพูดถึงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การเรียน การงาน การทำธุรกิจ การเทรด

เราไม่มีทางสมหวังทุกครั้ง มันจะมีครั้งที่สำเร็จ บางครั้งก็ไม่ได้สำเร็จตามใจที่หวัง

คนที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน การแพ้ให้เป็น ย่อมเกิดความท้อถอย บางท่านอาจจะตัดใจล้มเลิกทุกอย่าง เพราะทนความผิดหวังไม่ได้

คนที่จะประสบความสำเร็จ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม คือคนที่ทนต่อสภาวะ การแพ้ให้เป็นให้ได้ แต่ต้องไม่ตาย

บาดแผล ความเจ็บปวด ความกดดัน การดูถูกดูแคลน คือยาชั้นดี ที่จะก่อให้เกิด กระบวนการเปลี่ยนผ่าน

ท้อ จะเป็นได้แค่ถ่าน

แต่ถ้าผ่านมันจะกลายเป็น เพชร