posttoday

รู้จักค่าธรรมเนียมรวมกองทุนก่อนลงทุน

13 พฤษภาคม 2563

คอลัมน์ Wealth Design โดย... ธัญญา โลหะนันทชัย, CFP ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ผู้วางแผนการลงทุน สายงาน Product & Platform บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด

ช่วงที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงมาคิดว่าหลายคนคงจดๆจ้องๆอยากเข้าลงทุนกันอยู่เหมือนกัน แต่ในใจก็ยังไม่กล้าเพราะตลาดปรับตัวลงแรงแถมความเสี่ยงก็ยังมีอยู่ แต่ที่ไหนได้แค่เผลอแวบเดียวตลาดก็ดีดขึ้นมาแรง กว่าจะรู้ตัวอีกทีตลาดก็ขึ้นมาหลายสิบเปอร์เซ็นต์แล้วจนหลายคนบอกว่า “ถ้าอนาคตตลาดปรับตัวลงอีกครั้งฉันจะเข้าซื้อลงทุนแน่ๆ!! ยิ่งกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษีอย่าง SSFX ด้วยแล้ว ซื้อเต็มสิทธิ์แน่นอน”

ดังนั้นในระหว่างที่เฝ้าติดตามตลาดผมจึงขอเชิญชวนทุกท่านมาศึกษาหาความรู้เรื่องกองทุนกันก่อน หากในอนาคตมีโอกาสการลงทุนจะได้เลือกการลงทุนได้อย่างดีและมั่นใจ เวลาที่พิจารณาเลือกลงทุนในกองทุนรวมหากเป็นประเภทเดียวกันก็ดูจะมีความคล้ายกันอยู่ แต่ทุกกองทุนนั้นไม่ได้ให้ผลลัพธ์การลงทุนที่เหมือนกัน นั่นเป็นเพราะนโยบายการลงทุน, การคัดเลือกหลักทรัพย์ลงทุน, ทีมงาน, ค่าธรรมเนียม ฯลฯ ที่ต่างกัน ซึ่งในวันนี้เราจะมาพูดคุยกันเรื่องค่าธรรมเนียมกองทุนรวมกันครับ

โดยหลักๆ แล้วค่าธรรมเนียมแบ่งออกเป็นสองประเภทนั่นคือ 1. ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากกองทุนรวม และ 2.ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้ลงทุน ส่วนใหญ่นักลงทุนจะมีความคุ้นเคยกับประเภทหลังมากกว่า เช่น Front end fee, Back end fee, และ Brokerage fee ที่คุ้นเคยเพราะว่าเป็นค่าธรรมเนียมที่ท่านจะถูกเรียกเก็บเมื่อมีการเข้าซื้อหน่วยลงทุนหรือขายหน่วยลงทุนออก ส่วนจะเรียกเก็บจำนวนเท่าไหร่นั้นก็ตรงไปตรงมาตามที่ประกาศไว้ เมื่อมีการทำรายการค่าธรรมเนียมนี้ก็จะถูกหักออกจากเงินลงทุนของท่าน

แต่ “ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากกองทุนรวม” หรือขอเรียกสั้นๆว่า “ค่าธรรมเนียมรวม” ที่เรียกว่าค่าธรรมเนียมรวมเพราะค่าธรรมเนียมนี้จะประกอบด้วยค่าธรรมเนียมต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการจัดการกองทุน, ผู้ดูแลผลประโยชน์, นายทะเบียน, ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งทุกท่านสามารถตรวจสอบได้จากเอกสารสรุปสาระสำคัญของกองทุน (Fund Factsheet) ค่าธรรมเนียมนี้เป็นค่าธรรมเนียมที่ถูกหักออกจากกองทุนทุกวันก่อนที่ NAV จะถูกประกาศออกมา ซึ่งบางท่านอาจละเลยกับค่าธรรมเนียมนี้เพราะคิดว่าค่าธรรมเนียมนี้ท่านไม่ได้ถูกเก็บ แต่รู้หรือไม่ว่าในระยะยาวนั้นหากการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนเท่ากันแต่ค่าธรรมเนียมนี้ถูกเก็บในระดับที่ต่างกันจะส่งผลให้ผลตอบแทนที่ท่านจะได้รับนั้นต่างกันมากเลยทีเดียว

รู้จักค่าธรรมเนียมรวมกองทุนก่อนลงทุน

จากตัวอย่างกราฟข้างต้นจะแสดงจำนวนเงินลงทุนที่เติบโตจาก 100 บาทในช่วงระยะเวลา 30 ปี หากลงทุนได้ผลตอบแทน 6% ต่อปีเท่ากัน แต่มีการเก็บค่าธรรมเนียมรวมที่ไม่เท่ากัน เราจะเห็นได้ว่า ถ้าค่าธรรมเนียมรวมถูกคิดในอัตราที่ 1% ต่อปี ในปีที่ 30 จากเงินต้น 100 บาทจะเติบโตขึ้นมาถึง 446 บาทเลยทีเดียว สำหรับกองทุนรวมที่คิดค่าธรรมเนียมรวมที่ 2.5% ต่อปี เงินลงทุน ณ ปีที่ 30 จะมีมูลค่า 284 บาท ถึงแม้จะได้กำไรเหมือนกันแต่มูลค่านั้นต่างกันพอสมควร

คำถามคือ เราควรเลือกลงทุนในกองทุนรวมที่มีค่าธรรมเนียมต่ำๆ ใช่หรือไม่? สำหรับคำตอบคงประกอบไปด้วยหลายปัจจัยเช่น

1. การลงทุนนี้เราจะถือลงทุนนานหรือไม่? หากระยะเวลาลงทุนของท่านไม่ยาวนาน ผลตอบแทนปลายทางจะไม่ได้ต่างกันมากนัก จากกราฟที่แสดงข้างต้นในปีที่ 3 ผลตอบแทนระหว่างกองทุนที่คิดค่าธรรมเนียม 1% และ 2.5% จะต่างกัน 8.6 บาท

2. ผลตอบแทนหลังหักค่าธรรมเนียมยังชนะเกณฑ์การวัดผลการดำเนินงานกองทุนรวม (Benchmark) หรือไม่? เช่น หากปีนี้ SET Index ให้ผลตอบแทน 7% แต่ถ้ากองทุนรวมที่เราลงทุนในหุ้นไทยให้ผลตอบแทนหลังหักค่าธรรมเนียมแล้วเท่ากับ 10% ก็ถือว่ากองทุนรวมนั้นยังเป็นกองทุนที่ดีอยู่ และยังให้ผลตอบแทนชนะเกณฑ์ที่ตั้งไว้

3. เน้นดูที่นโยบายลงทุนและองค์ประกอบอื่นๆ หากกองทุนนั้นมีนโยบายการลงทุนที่เหมาะสมกับการลงทุนของเรา มีผลการดำเนินงานที่ดีสม่ำเสมอ ทีมงานบริหารกองทุนมีความเป็นมืออาชีพ การคัดเลือกหลักทรัพย์เข้ามาลงทุนมีกระบวนการที่เหมาะสม ฯลฯ สิ่งต่างๆเหล่านี้ก็เป็นหลักเกณฑ์ที่สำคัญในการพิจารณาลงทุนด้วยเช่นกัน โดยท่านควรยึดมั่นกับเป้าหมายและเลือกการลงทุนที่นำพาให้ไปถึงเป้าหมายเป็นเรื่องลำดับแรกๆ

เมื่อทราบความสำคัญของค่าธรรมเนียมการลงทุนแล้ว ก่อนลงทุนก็ควรศึกษารายละเอียดต่าง ๆ ของค่าธรรมเนียมกองทุนให้ถี่ถ้วน นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดอื่น ๆ ที่ควรศึกษาให้เข้าใจก่อน เช่น นโยบายการลงทุนเป็นอย่างไร เกณฑ์การวัดผลการดำเนินงานคืออะไร ผลตอบแทนย้อนหลังดีสม่ำเสมอหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดนี้ท่านผู้อ่านสามารถนำไปเป็นแนวทางในการพิจารณาซื้อกองทุนรวมได้ด้วยตัวเอง

ปัจจุบันนี้เรามีเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น อย่าง Application Easy Invest ของ SCBS ท่านสามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลต่างๆที่เกริ่นไปทั้งหมดได้ รวมถึงยังมีการคัดเลือกกองทุนรวมที่น่าสนใจและเหมาะสมกับลูกค้าแต่ละท่าน พร้อมเลือกซื้อกองทุนได้ทันทีจาก 16 บลจ.ชั้นนำ

บล.ไทยพาณิชย์ (SCBS) ขอแนะนำ Application EASY INVEST สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ SCBS Call Center 02 949 1999 หรือ http://www.scbs.com/easyinvest